เว็บไซต์ (EN) | จดหมายแจ้งลูกค้า (TH) | Press Release (EN) |
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 14 พ.ย. 2560 – DigiCert Inc. ยักษ์ใหญ่แห่งวงการ Identity and Encryption Solutions ในตลาด Enterprise และ Symantec Corp. (NASDAQ:SYMC) อีกหนึ่งค่ายแห่งวงการ Cyber Security ระดับโลกได้ร่วมประกาศอย่างเป็นทางการว่า DigiCert ได้เข้าถือกิจการด้าน Website Security และ PKI solutions ของ Symantec อย่างสมบูรณ์แล้ว
ลูกค้าเดิมของ Symantec จะได้รับคำแนะนำที่ชัดเจนในส่วนของกระบวนการ และขั้นตอนการขอจดทะเบียน SSL ที่จะย้ายไปที่ DigiCert เพื่อให้ SSL Certificate ยังคงมีระดับความน่าเชื่อถือสูงสุดต่อไป
John Merrill, CEO ของ DigiCert กล่าวว่า “การถือครองกิจการครั้งนี้ เป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งวงการ ที่น่าจับตามองทั้งในส่วนของคู่ค้า (partner) และ ลูกค้า (customer) ของทั้งสององค์กร สำหรับผู้ใช้งานของ Symantec เอง จะได้รับคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของ SSL Certificate ที่ตนเองถืออยู่ รวมทั้งได้รับการยืนยันที่แน่นอนเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ หลังจากที่ตกอยู่ในสภาวะสุญญากาศมาสักระยะหนึ่ง การลงทุนที่เพิ่มขึ้นจาก DigiCert นั้น จะทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์มากขึ้นในส่วนของ SSL, PKI และ IoT นอกจากนี้ DigiCert เองจะได้กลายเป็นผู้นำอันดับหนึ่งและมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแล PKI Security Standard ด้วย ทั้งนี้จึงทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า อนาคตของ Security Practice จะมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ภายใต้การดูแลของ DigiCert ซึ่ง DigiCert เองยินดีรับบทบาทดังกล่าวและเตรียมความพร้อมไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว”
Greg Clark,CEO แห่ง Symantec เสริมว่า “การถือครอง Security Web PKI solutions ที่ส่งต่อให้แก่ DigiCert นั้นเป็นโอกาสที่หาพบได้ยากในวงการ มั่นใจได้เลยว่าลูกค้าของ Symantec เองจะได้สิทธิประโยชน์มากขึ้น ปกป้องเว็บไซต์ของตนเองในอีกระดับที่สูงขึ้น เราคาดหวังว่าลูกค้าของทั้งสองบริษัทจะได้ใช้โซลูชั่นแห่งอนาคตที่จะเกิดขึ้นจากการถือครองกิจการในครั้งนี้”
Robert Sayle ซึ่งเป็น Partner จากบริษัท Thoma Bravo กล่าวว่า “การถือกิจการครั้งนี้ทำให้ DigiCert มีโอกาสในการขยายอาณาเขตการบริการไปยังตลาดที่ใหญ่ขึ้นทั่วโลก พร้อมมีโอกาสนำเสนอเครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยเสริมให้ระบบความปลอดภัยเว็บไซต์มีสมรรถนะที่สูงขึ้น”
นับตั้งแต่มีการประกาศการถือครองกิจการตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2560 เป็นต้นมา DigiCert ได้พัฒนาเทคโนโลยีให้สอดรับกับความต้องการของ browser อย่างจริงจัง เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่เข้ากันที่เกิดขึ้นก่อนหน้า DigiCert วางแผนที่จะทดแทน Certificate ที่ได้รับผลกระทบโดยที่ customer ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและไม่เกิด downtime ในการใช้งาน เหนืออื่นใดคือเพื่อให้เกิด trust อย่างต่อเนื่องนั่นเอง และ DigiCert จะแจ้งรายชื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นรายๆ ไป และจะให้บริการอย่างต่อเนื่อง 24/7 เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในบางกรณี
DigiCert มีความพร้อมอย่างสูงในการรับช่วงต่อจาก Symantec ในด้านของการดำเนินงานและสนับสนุนลูกค้า ในหลายปีที่ผ่านมา DigiCert ลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐานของตนเองเพื่อรองรับการขยายตัวขององค์กรขนาดใหญ่ระดับ Enterprise และรองรับการติดตั้ง Certificate ให้กับเทคโนโลยีด้าน IoT ด้วย DigiCert เองมีระบบสนับสนุน certificate จำนวนหลายพันล้านใบและพร้อมรับมือกับการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ถือครองกิจการใหม่แล้ว ลูกค้าจะได้รับบริการการยืนยันใบรับรองที่รวดเร็วขึ้นและเห็นถึงความแตกต่างในเรื่องคุณภาพของการบริการที่ดีขึ้นตามไปด้วย
Jody Cloutier อดีต senior program manager หน่วยงาน Microsoft Cryptographic Ecosystem กล่าวว่า “DigiCert มีสถานะที่เหมาะกับบทบาทนี้อย่างมาก ในช่วงที่ผมเคยทำงานที่ Microsoft โดยทำหน้าที่จัดการ root store program นั้น ผมเห็น DigiCert เป็นองค์กรที่มีความมุ่งมั่นในการสร้าง trust บนโลกออนไลน์อย่างจริงจัง ผมคาดหวังว่าการถือครองกิจการครั้งนี้จะนำไปสู่การมีแพลตฟอร์มแห่งอนาคตและมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เกิดขึ้น อันจะเป็นผลดีต่อลูกค้าโดยรวม”
Ben Laurie หัวหน้าฝ่าย security and transparency บริษัท DeepMind กล่าวว่า “นับตั้งแต่มีแนวคิดเรื่อง Google Certificate Transparency เกิดขึ้น DigiCert คือคู่ค้าที่ช่วยเราทดสอบระบบทั้งหมด รวมทั้งคอยแก้ไขปัญหา และพัฒนาเทคโนโลยีให้สมบูรณ์มากขึ้น DigiCert นี้ประกอบด้วยทีมงานที่เป็นนักติดตั้งอย่างแท้จริงและยังมอบ independent log เป็นครั้งแรกให้แก่เราซึ่ง CA ทั้งหลายสามารถนำไปใช้สร้าง CT ให้ดำเนินการได้จริงด้วย DigiCert ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าจะเอาชนะปัญหาต่างๆ และพัฒนาสถานะของ CA security and trust ได้อย่างจริงจัง”
Philip Chon ตำแหน่ง security analyst บริษัท Verizon Digital Media กล่าวว่า “Digicert คือผู้นำแห่งโลก cryptography, security developments และ certificate authority industry standards ซึ่งทำให้เราเข้าใจอะไรได้ง่ายขึ้นเมื่อต้องรับมือกับช่องโหว่ใน protocol และการผันแปรใน standard ต่างๆ อันจะก่อผลกระทบต่อลูกค้าของเราที่ต้อง stream สื่อวิดีโอตลอดเวลาได้ทุกเมื่อ”
ตามที่มีการประกาศครั้วก่อน John Merrill ยังคงดำรงตำแหน่ง CEO ของ DigiCert และยังมีทีมงานบริหารชุดเดิม DigiCert ยังคงตั้งสำนักงานใหญ่ที่ Lehi, Utah และมีผู้เชี่ยวชาญจำนวน 1,000 รายในสำนักงานต่างๆ ทั้งใน California และสำนักงานสาขาทั่วโลก เมื่อได้ถือครองกิจการ Website Security และ PKI solutions ของ Symantec แล้ว DigiCert จะสามารถขยายอาณาเขตทางการตลาดไปได้ทั่วโลกซึ่งรวมถึง Global 2000 enterprise,ผู้นำด้านค้าปลีก, ธนาคารและสถาบันการเงิน และองค์กรด้านเทคโนโลยีชั้นนำในอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วย
ภายใต้ข้อตกลงนี้ Symantec จะได้รับเงินสดมูลค่า 950 ล้านเหรียญและยังถือหุ้น 30% ใน DigiCert โดย Symantec คาดหวังว่าจะใช้มูลค่าของหุ้นและภาษีเป็นหลักเพื่อชำระหนี้ให้ได้ครบถ้วน
ในส่วนของ Local Partner อย่าง SSL.IN.TH เอง การเปลี่ยนผ่านจากทั้งสองบริษัทนี้ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินการการสนับสนุนแต่อย่างไร เนื่องจาก Netway Communication Co., Ltd. เองที่ดูแลเว็บไซต์หน้าร้าน SSL.IN.TH นั้นเป็น Authorized Partner ของทั้ง Symantec Website Security (Platinum) และ DigiCert อยู่แล้ว ในแง่ของการเปลีย่นระบบการขอจดทะเบียน การดำเนินการ และการสนับสนุนเอง สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีความประสงค์จะย้าย CA ได้อยู่แล้ว หากลูกค้าท่านใดที่ยังไม่มั่นใจในการเปลี่ยนแปลง สามารถย้ายบริการ SSL Certificate ไปยัง CA เจ้าอื่นอย่างเช่น GoDaddy หรือ Comodo ได้ทันที รวมทั้งยังมีแผนที่จะเปิดตัว Entrust ซึ่งเป็น CA ที่มีชื่อเสียงในฝั่งของ Enterprise solutions ต่อไปในปีหน้านี้อีกด้วย โดยลูกค้าที่สนใจบริการของ Entrust สามารถติดต่อสอบถามได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ข้อมูลเพิ่มเติม
https://www.websecurity.symantec.com/digicert-and-symantec-faq
-------------
เกี่ยวกับ Symantec
ไซแมนเทคคอร์ปอเรชั่น (Symantec Corporation) (NASDAQ: SYMC) ผู้นำระดับโลกด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่จะช่วยรักษาข้อมูลที่สำคัญที่สุดของค์กรรัฐบาลและส่วนบุคคลให้มีความปลอดภัยในทุกๆทีของการเก็บรักษา องค์กรทั่วโลกมองไปที่ไซแมนเทคสำหรับยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาแบบบูรณาการเพื่อป้องกันการโจมตีที่มีความซับซ้อน ผ่านคลาวด์ และโครงสร้างพื้นฐาน ในทำนองเดียวกันชุมชนทั่วโลกกว่า 50 ล้านครัวเรือน ต่างเชื่อมั่นในไซแมนเทค นอร์ตัน ผลิตภัณฑ์สำหรับการป้องกันทุกอุปกรณ์ใช้งานที่บ้านและแบบพกพา และด้วยเครือข่ายอัจฉริยะที่ใหญ๋ที่สุดของข่าวกรองพลเรือนในโลกไซเบอร์ของไซแทนเทคอันทันสมัยจะช่วยทำให้การมองเห็นและปกป้องภัยคุกคาม ทำได้อย่างดี สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชม www.symantec.com หรือเชื่อมต่อกับไซแมนเทค ได้ทาง Facebook, Twitter และ LinkedIn
เกี่ยวกับ DigiCert
DigiCert เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชั่นด้านความปลอดภัยที่ปรับขนาดได้สำหรับโลกยุคใหม่ กลุ่มบริษัท ที่มีนวัตกรรมมากที่สุด หรือ Global 2000 ได้เลือก DigiCert เพราะมีความเชี่ยวชาญด้าน identity และการเข้ารหัสสำหรับเว็บเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์ Internet of Things โดย DigiCert ให้การสนับสนุนด้าน SSL / TLS และใบรับรองดิจิทัลอื่น ๆ สำหรับการใช้งาน PKI ในระดับต่างๆ ผ่านแพลตฟอร์มการจัดการวงจรชีวิตใบรับรองของ CertCentral® บริษัทฯ ได้รับการยอมรับจากหลายสิบรางวัลสำหรับแพลตฟอร์มการจัดการระดับองค์กรการสนับสนุนลูกค้าที่รวดเร็วและมีความรู้ความเข้าใจและการเติบโตของตลาดชั้นนำ สำหรับข่าวและการอัปเดต DigiCert ล่าสุดโปรดไปที่ digicert.com หรือปฏิบัติตาม @digicert
-------------------------------------------------------------------------------------------------
Line : @netway (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://bit.ly/line-netway
Facebook : m.me/netway.offcial
Tel : 02-055-1095
Email : support@netway.co.th
Web Chat : https://netway.co.th/
#ให้เราช่วยคุณเรื่องไอที #การสื่อสาร Netway #มีครบจบที่เดียว #SSL #Netway Communication #NetwayTraining #NetwayConnect