หมวด Advanced (การตั้งค่าระดับสูง) 1. เมนู Cron Jobs ตั้งการทำงานอัตโนมัติ ในส่วนนี้จะแบ่งเป็นสองระดับคือ ขั้นพื้นฐาน กับผู้ใช้งานระดับสูง โดยในส่วนของขั้นพื้นฐาน นี้สามารถตั้งค่าได้โดยระบุคำสั่ง แล้วเลือก วัน เวลา ที่ต้องการ จากนั้นให้ทำการ ซึ่งในการกำหนด คำสั่งนี้ ผู้ที่กำหนดคำสั่ง นี้ผู้ใช้จะต้องรู้คำสั่งระบบ linux พอสมควร ส่วนของผู้ใช้งานระดับสูงก็สามารถมาตั้งค่าการทำงานได้เหมือนกับ ขั้นพื้นฐานเพียงแต่ว่าผู้ใช้จะต้องมีความรู้ในคำสั่งของ linux เป็นอย่างดี ซึ่ง Cronjobs เป็นเครื่องมือสำหรับตั้งเวลาให้คำสั่งต่างๆ บนระบบปฎิบัติการที่เป็น UNIX, LINUX ทำงานตามเวลาที่ต้องการ สามารถนำไปประยุกต์ให้ php script ทำงานตามเวลาที่กำหนดได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการสั่งงานให้ script /home/picohostin/domains/picohosting.com/public_html/testcron.php ทำงานทุกๆ 5 นาที ก็สามารถทำได้โดยการสร้าง Cronjobs ใหม่ และป้อนคำสั่งดังรูป สำหรับคำสั่งที่ต้องป้อนเข้าไปก็จะมี path ของ php และ path ของ script ที่ต้องการให้ทำงาน เช่น /usr/local/bin/php /home/picohostin/domains/picohosting.com/public_html/testcron.php สำหรับ path ทั้งหมดต้องเป็น path จริงบนเครื่อง server และวิธีการตรวจสอบ path ของ script ที่ต้องการให้ทำงาน สามารถใช้ function realpath() ตรวจสอบได้ Script ที่ต้องการให้ทำงานต้องตั้งค่า permission ให้สามารถ execute ได้ก่อน หรือ ตั้งค่า chmod ให้เป็น 755 ก่อนนะครับ script ดังกล่าวถึงจะทำงานได้ 2. MIME Types MIME Type มีไว้สำหรับกำหนดให้ Web browser รู้จักว่าข้อมูลที่ Server ส่งไปนั้นเป็นไฟล์หรือข้อมูลประเภทไหน สามารถกำหนด MIME Types ให้กับ ไฟล์เฉพาะทำให้ Web Browser รู้จักไฟล์ดังกล่าว ยกตัวอย่างเช่น .htm สามารถกำหนด MIME Type เป็น text/html ได้โดยการป้อน text/html ในช่อง MimeType และ htm ในช่อง extension แล้วคลิ๊กปุ่ม Add 3. เมนู Indexes ในส่วนนี้จะเป็นการกำหนดการแสดงผลของแต่ละโฟลเดอร์ว่าจะให้มีการแสดงผลอย่าง ไร โดยให้คลิ๊กที่ชื่อของโฟลเดอร์ที่ต้องการตั้งค่านั้น แล้วเลือกรูปแบบ โดยจะมีให้กำหนดอยู่ 3 รูปแบบ คือ- ไม่แสดงรายชื่อไฟล์- แสดงรายชื่อไฟล์ (ข้อความอย่างเดียว)- แสดงรายชื่อไฟล์(ภาพกราฟิค) 4. เมนู Virus Scanner แสกนไวรัส ในส่วนนี้เป็นการแสกนไวรัสบนเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็น Home Directory ทั้งหมดหรือเฉพาะอีเมล์ ที่ถูกส่งเข้ามายังโดเมน 5. เมนู Error Pages หน้าต่างแสดงความผิดพลาด ในส่วนนี้จะเป็นการแสดงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับเว็บไซต์ เช่นการเรียกไฟล์ที่ไม่มีอยู่ใน domain การเรียกชื่อผิด โดยสามารถเข้ามาดูข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับเว็บไซต์แล้วนำไปแก้ไข ได้จากส่วนนี้
หมวด SOFTWARE เมนู PHP PEAR Package ในส่วนของ PHP PEAR นี้ จะมีส่วนที่ได้ทำการติดตั้งอยู่แล้วในส่วนที่เป็นของระบบ โดยเราสามารถเข้าไปดูได้ว่าในส่วนที่ถูกติดตั้งอยู่แล้วมีอะไรบ้าง ในที่นี้เป็น PEAR package ที่สามารถทำงานได้ใน PHP โดยคุณสามารถดูได้ว่ามีโมดูลไหนที่ระบบได้ติดตั้งไปให้แล้วโดยให้คุณคลิ๊ก ที่ “Show System Installed Modules” ก็จะได้ดังรูป เมนู Perl Module ในส่วนของ Perl Module นี้ จะมีส่วนที่ได้ทำการติดตั้งอยู่แล้วในส่วนที่เป็นของระบบ โดยเราสามารถเข้าไปดูได้ว่าในส่วนที่ถูกติดตั้งอยู่แล้วมีอะไรบ้าง ในที่นี้เป็น Perl Module ที่สามารถทำงานได้ใน Perl Program โดยคุณสามารถดูได้ว่ามีโมดูลไหนที่ระบบได้ติดตั้งไปให้แล้วโดยให้คุณคลิ๊ก ที่ “Show System Installed Modules” ก็จะได้ดังรูป เมนู Site Softwareอินเทอร์เฟซนี้จะอนุญาตให้คุณเพิ่ม จัดการ อัปเกรด และลบ cPanel Addons (cPAddons) แพคเกจซอฟต์แวร์ cPAddon เพิ่มฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์ให้กับเว็บไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่น cPAddons สามารถใช้งานบล็อก กระดานข่าว ซอฟต์แวร์อีคอมเมิร์ซ สมุดเยี่ยมชม และบริการอื่นๆ แต่ในปัจจุบันทาง cPanel ได้ประกาศว่าเลิกใช้อินเตอร์เฟซนี้แล้ว คุณลักษณะนี้ จะปรากฏ ก็ต่อเมื่อทางเราเปิดใช้งานเท่านั้นเมนู Optimize Websiteอินเทอร์เฟซนี้จะช่วยบีบอัดเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณและลดระยะเวลาในการโหลดหน้าเว็บ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของเว็บไซต์หากต้องการบีบอัดเนื้อหาทั้งหมดของเว็บไซต์ของคุณ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:1. Select Compress All Content. 2. Click Update Settings.หากต้องการระบุรายการประเภทเนื้อหาที่จะบีบอัด ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:1.Select the Compress the specified MIME types option. 2.ในกล่องข้อความประเภท MIME ให้ป้อนรายการประเภทเนื้อหาที่คุณต้องการบีบอัดโดยคั่นด้วยช่องว่าง (เช่น text/html text/plain text/xml).3. Click Update Settings.เมนู MultiPHP Managerอินเทอร์เฟซ MultiPHP Manager ของ cPanel ช่วยให้คุณจัดการการกำหนดค่า PHP ของบัญชีของคุณได้อย่างง่ายดาย โดยคุณสามารถเปลี่ยนเวอร์ชั่นของ PHP ได้ที่เมนู PHP Version หลังจากเลือกเวอร์ชั่นแล้วให้ทำการติ๊กเลือกโดเมนที่ต้องการเปลี่ยนและทำการกด Apply เพื่อยืนยันเมนู MultiPHP INI Editorอินเทอร์เฟซนี้ช่วยให้คุณสามารถกำหนดการตั้งค่า PHP ของคุณได้Baisc Mode อินเทอร์เฟซนี้จะโหลดค่าคำสั่งจาก php.ini ไฟล์สำหรับโดเมนหรือโฮมไดเร็กตอรี่ที่คุณเลือก ทำการเปลี่ยนแปลงคำสั่งที่ต้องการแล้วคลิกนำไปใช้ ระบบจะบันทึกการเปลี่ยนแปลงในไฟล์ php.ini user.ini และ .htaccess ของคุณEditor Mode ตัวแก้ไขของอินเทอร์เฟซนี้จะโหลดเนื้อหาของ php.ini ไฟล์สำหรับโดเมนที่คุณเลือก ถ้ามี หาก php.ini ไม่มีไฟล์ดังกล่าว อินเทอร์เฟซจะโหลดโปรแกรมแก้ไขเปล่าเพื่อให้คุณสามารถสร้างไฟล์ของคุณเองได้ ทำการเปลี่ยนแปลงคำสั่งที่ต้องการแล้วคลิกบันทึกเมนู Select PHP Version ในส่วนนี้สามารถเลือก ALT-PHP Version ที่ต้องการสำหรับเว็บไซต์ได้ เมื่อเลือก ALT-PHP Version ที่ต้องการได้แล้ว ให้คลิก Apply และในส่วนของเมนู Extensions และ Options จะสามารถปรับการตั้งค่าของ PHP Version ต่าง ๆ ได้
หมวด Security (ระบบรักษาความปลอดภัย) เมนู IP Block ป้องกันการใช้งานจาก ไอพีแอดเดรส ในส่วนนี้เป็นการป้องกันไม่ให้ IP Address ที่คุณไม่ต้องการ เรียกใช้งานเว็บไซต์ของคุณได้ ง่ายๆ เพียงแค่ระบุ IP Address ที่คุณไม่ต้องการ ยกตัวอย่าง ถ้าคุณไม่ต้องการ IP ที่ขึ้นต้นด้วย 1.2.3.0 ถึง 1.2.3.255 ให้เข้าใช้งาน ก็สามารถกำหนดได้ โดย ระบุ IP นั้น แล้วคลิ๊กที่ “Add” คุณสามารถกำหนดให้โดเมนอื่นใด ไม่สามารถเชื่อมต่อโดยตรงมายังโดเมนของคุณ โดยการ ระบุหมายเลขไอพี หรือ ชื่อโดเมนนั้นๆ แล้วเลือก “เพิ่ม” หรือยกเลิก การป้องกันไอพีใดๆ ได้ โดยเลือกที่ ชื่อไอพีนั้นๆ แล้วเลือก “ลบ” เมนู Leech Protect สร้างรหัสป้องกันเว็บเพจ คุณสามารถสร้างรหัสป้องกัน เมื่อมีผู้ใช้เข้าใช้งานเว็บเพจของคุณ โดยเลือกที่ชื่อโฟลเดอร์ใดๆ ที่คุณต้องการสร้างรหัสป้องกัน จากตัวอย่าง เราเลือกสร้างรหัสป้องกันให้กับโฟลเดอร์ test เมื่อทำการคลิ๊กเข้าไป ก็จะได้ดังรูป จากนั้นให้ทำการตั้งชื่อ Enter a name for the protected directory: แล้วให้คลิ๊กที่ช่อง Password protect this directory แล้วก็ทำการ save ดังรูป เมื่อทำการสร้างผู้ใช้แล้วจะเห็นว่ามีผู้ใช้ที่สามารถเข้าใช้ไดเรคทอรีนี้ได้ดังรูป โดยสามารถทำการลบผู้ใช้ได้ โดยเลือกที่ชื่อของผู้ใช้แล้วเลือก “Delete User” ส่วนการเปลียน เมื่อมีการกำหนดการสร้างรหัสป้องกันเว็บเพจ เราจะเห็นได้ว่ามีไดเรคทอรี ที่มีการป้องกันโดยสังเกต ได้จากการที่มีรูปกุญแจอยู่หน้าไดเรคทอรี ดังรูป
หมวด Metrics ( สถิติและการบันทึกการใช้งาน ) 1. เมนู Visitors ผู้เข้าใช้งานล่าสุด ฟังก์ชั่นนี้จะแสดงผล 1,000 รายการล่าสุดในบันทึกของ Apache สำหรับเว็บไซต์โดเมนที่ใช้งาน 2. เมนู Metrics Editor การปรับแต่งสถิติ ฟังก์ชั่นนี้จะให้ลูกค้ากำหนดสิทธิ์ในการบันทึกสถิติต่างๆที่ต้องการหรือไม่ต้องการได้ 3. เมนู Error ฟังก์ชันนี้จะแสดงข้อผิดพลาดล่าสุดสำหรับไซต์ของคุณ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการหาลิงก์ที่ได้รับความเสียหายหรือพบปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลที่หายไป 4. เมนู Resource Usage Overview เป็นฟังก์ชันที่ใช้แสดงข้อมูลการใช้งาน Resource Usage (การใช้งานทรัพยากร Server) เช่น Cpu , Ram เป็นต้น โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบการใช้งานได้โดยกดที่ Detail 5. เมนู Bandwidth ปริมาณข้อมูลเข้า-ออก ข้อมูลทางสถิติที่แสดงนี้รวมถึงปริมาณข้อมูลเข้าออกของ HTTP, SMTP, FTP และ POP3 ด้วย และจะมีการ update ข้อมูลทุกๆ 6 ชั่วโมง เมื่อคุณเลือกดู "ปริมาณข้อมูลเข้าออก" ระบบจะแสดงกราฟข้อมูลเข้าออกโดเมนของคุณ โดยที่ชื่อโดเมนก็จะเป็นชื่อโดเมนของคุณ ( จะเป็น yourdomain.com ) 6. เมนู Awstats ข้อมูลสถิติ โดเมนหลักจะ update ทุกๆ 24 ชั่วโมง และหากคุณต้องการเปรียบเทียบข้อมูลย้อนหลัง คุณจะสามารถเปรียบเทียบข้อมูลย้อนหลังภายใน 36 ชั่วโมง และควรบันทึกสถิติการใช้งานสำหรับข้อมูลส่วนที่มีการใช้งานสูงๆ เพื่อการปรับปรุงการใช้งานให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมต่อไป เมื่อคุณต้องการดูสถิติโดเมนหลัก ให้คุณเลือกที่ชื่อ Domain จะพบหน้าต่างแสดงข้อมูลทางสถิติสำหรับโดเมนหลักของคุณ ตามหน้าถัดไป
หมวด Email Management Tools (จัดการอีเมล์) ในส่วนของโหมดนี้จะเป็นการตั้งค่าการใช้งานต่างๆ เกี่ยวกับอีเมลนะครับ เช่น เพิ่ม Email Account, ลบ Email Account, ทำ Email Forwarders, สร้าง Mailling List, บล็อคอีเมล และอื่นๆ โดยสามารถดูวิธีใช้งานเมนูต่างๆ ได้ตามด้านล่างเลยนะครับ Email Accounts เมนูนี้มีไว้สำหรับสร้าง และ ลบ Email Account นะครับ โดยผมจะแบ่งเป็น 2 หัวข้อตามด้านล่างครับ 1. การสร้าง e-mail account ให้ใส่ชื่อ account และตั้ง password และกำหนด Quota เมลล์ จากนั้นคลิกที่ปุ่ม “Create Account” ก็จะสามารถสร้างอีเมลได้แล้วครับ ตัวอย่างข้อมูลที่ต้องกรอกตามด้านล่างครับ หมายเหตุ: ในส่วนของการตั้งรหัสผ่านจะต้องตั้งให้ระบบความยากเกินกว่า 70 นะครับ 2. การลบ e-mail account ในส่วนนี้หลังจากลูกค้ากดเข้ามาที่เมนู Email Accounts แล้วให้เลื่อนลงมาด้านล่างครับ แล้วหาชื่อ email account ที่เราต้องการจะลบ แล้วกด "Delete" ที่ข้างหลัง Account ที่ต้องการจะลบครับ Autoresponders เมนูนี้จะไว้ใช้สำหรับตั้งอีเมลตอบกลับอัตโนมัตินะครับ การตอบกลับอัตโนมัติ หมายถึง การติดตั้งระบบตอบรับอัตโนมัติ โดยอีเมล์ที่ส่งไปยังอีเมล์แอดเดรสที่รับการติดตั้งตัวตอบรับ อัตโนมัติไว้นั้น จะได้รับอีเมล์ตอบกลับจาก server ในทันที โดยข้อความของอีเมล์ที่ตอบกลับไปสามารถกำหนดได้จากเมนูนี้ครับ โดยวิธีการใช้งานลูกค้าสามารถดูได้ตามลิ้งนี้นะครับ >> คลิกที่นี่ Track Delivery เมนูนี้จะไว้ใช้สำหรับตรวจสอบสถานะอีเมลที่เราส่งออกไปนะครับ ว่าถึงผู้รับหรือไม่ครับ โดยให้กรอกอีเมลปลายทางที่เราส่งไปหาตรงช่อง Recipient Email (optional) แล้วกด Run Report ครับ หมายเหตุ: ข้อมูลในส่วนนี้จะสามารถตรวจสอบได้ 10 วันย้อนหลัง หลังจากทำการส่งอีเมลไปแล้วนะครับ Authentication เมนู Authemtication นั้นจะมีไว้สำหรับเปิดค่า Authen เพื่อใช้ยืนยันตัวตนเวลาส่งอีเมลออกไปนะครับ โดยจะสามารถเปิดได้ 2 ค่าคือ SPF (Sender Policy Framework) และ DKIM (Domain Keys Identified Mail) ในส่วนของวิธีการใช้งานนั้นให้เข้าไปที่เมนู Authentication ตรวจสอบตรงค่า DKIM และ SPF ครับ ว่าถูกเปิดไว้แล้วหรือไม่ วิธีตรวจสอบคือให้สังเกตุตรง Status ของค่านั้นๆ ถ้าเกิดขึ้นเป็นค่าว่า Disabled แสดงว่ายังไม่ได้เปิดการใช้งานครับ ให้ลูกค้ากด Enable ตรงปุ่มสีฟ้าๆ เพื่อเปิดการใช้งาน หลังจากเปิดแเรียบร้อยแล้วครับตรง Status จะเปลื่ยนเป็าคำว่า Enable ดูตัวอย่างได้ตามรูปภาพด้านล่างครับ (ในส่วนนี้ค่า DKIM ถูกเปิดไว้อยู่แล้วจะขึ้น Status:Enabled Active (DNS Check Passed) และค่า SPF ยังไม่ได้ถูกเปิดจะขึ้นเป็น Status: Disabled ครับ) Encryption เมนูนี้มีไว้ใช้สำหรับสร้าง “public key” หรือ “private key” ขึ้นมาบน Host ของเราเพื่อใช้งาน SSL Certificate นะครับ ซึ่งในส่วนนี้ลูกค้าสามารถ Generate Key ขึ้นเองได้จากระบบ cPanel หรือจะ Import Key จากที่อื่นเข้ามาก็สามารถทำได้ครับ ตัวอย่างรูปแบบเมนูตามรูปภาพด้านล่างครับ Forwarders เมนูนี้จะไว้ใช้สำหรับการทำอีเมล Forwards นะครับ Forwarder Email หมายถึง การส่งต่อข้อความอีเมล์จาก บัญชีอีเมล์หนึ่ง ไปยังอีกบัญชีหนึ่ง โดยอัตโนมัติ ซึ่งข้อความนั้นจะส่งไปถึงทั้งสองบัญชีอีเมล์ (ได้รับเมล์ทั้งคู่) เช่น ลูกค้ามี Email หลักคือ sale@yourdomain.com และทำการตั้งค่า Forwarder ไว้ให้ส่งต่อไปยังอีเมลอื่นๆ เช่น john@yourdomain.com, steve@yourdomain.com, robert@yourdomain.com เมื่อมีคนส่งอีเมลมาที่ sale@yourdomain.com ก็จะมีการส่งต่ออีเมลไปที่ทั้ง 3 Email Account ที่เราตั้งไว้ก่อนหน้านี้ด้วย รวมถึง Account หลัก sale@yourdomain.com ก็จะได้รับอีเมลครับ (ได้รับทั้งหมด 4 Account) ใน่สวนของวิธีการทำ Forwarder Email ลูกค้าสามารถดูได้ตามคู่มือนี้นะครับ >> คลิกที่นี่ Default Address เมนูนี้จะไว้ตั้งค่าสำหรับเวลาที่มีคนส่งอีเมลมาที่ Account ของเราแต่ Account นั้นไม่มีอยู่จริง เราสามารถทำให้อีเมลฉบับนั้นตีกลับไปหาผู้ส่งและแจ้ง Error ไปหาผู้ส่งตามปกติ หรือ เราจะทำการ Forward อีเมลฉบับนั้นไปที่ Email อื่นก็ได้ครับ ในส่วนนี้ลูกค้าสามารถดูวิธีการตั้งค่าได้ตามด้านล่างครับ 1. ในกรณีที่มีคนส่งเข้ามาแล้ว Account นั้นไม่มีอยู่จริง เราสามารถทำให้อีเมลฉบับนั้นตีกลับไปหาผู้ส่งและแจ้ง Error ไปหาผู้ส่งตามปกติได้ โดยการกด Ckeck box ตรงคำว่า Discard the email while your server processes it by SMTP time with an error message. ครับ โดยเราสามารถกำหนดข้อความที่จะตีกลับไปหาผู้ส่งได้ ตรงช่อง Failure Message (seen by sender) ซึ่งโดยปกติแล้วจะใส่เป็น No Such User Here = ไม่มี Account ดังกล่าวอยู่จริงครับ 2. ถ้าลูกค้าต้องการ Forward อีเมลฉบับนั้นไปที่ Email อื่น สามารถทำได้โดยการ Check box ตรงคำว่า Forward to Email Address ครับ เสร็จแล้วให้กำหนดอีเมลที่เราต้องการที่จะส่งไปหาตรงช่อง Forward to Email Address: หมายเหตุ: ในส่วนนี้ลูกค้าสามารถเลือกได้อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นนะครับ ว่าจะให้อีเมลตีกลับไปหาผู้ส่ง หรือจะให้อีเมลฉบับนั้นส่งต่อไปที่อีเมลอื่นแทน Global Email Filters เมนูนี้จะมีไว้สำหรับการตั้งค่า Block อีเมลนะครับ ซึ่งอีเมลที่เรา Block ไปนั้นจะส่งผลโดยรวมต่อทุก Account ที่เป็น @domainname.com (*@domainname.com) ของเราครับ Email Filters เมนูนี้จะมีไว้สำหรับตั้งค่า Block อีเมล เหมือนกับเมนู Global Email Filters นะครับ ซึ่งจะแตกต่างกันแค่ Email Filters นั้นจะทำงานในระดับ Account เช่น เราสามารถเข้าไปตั้งค่า Block Email โดยให้ Block เฉพาะ Account ที่เราใช้งานเท่านั้น เช่น info@domainname.com, admin@domainname.com โดยจะไม่ส่งผลรวมต่อทุกอีเมลใน โดเมนของเราครับ โดยวิธีการใช้งานจะต้องเข้าไปสร้าง Rules เหมือนการใช้งานเมนู Global Email Filters ตามรายละเอียดข้างบนเลยครับ หมวด Email Management Tools (จัดการอีเมล์)