Whitepaper: How to make your Power BI projects successful with Azure Synapseยกระดับโปรเจ็ค Power BI ของคุณให้สำเร็จไปอีกขั้น จำเป็นต้องมีฟีเจอร์ที่มีประสิทธิภาพ และการควบคุมต้นทุนที่ดีมาช่วยรองรับ โดยทั้งหมดนี้ คุณจะหาอ่านได้ที่เอกสารเกี่ยวกับ Azure Synapse Analytics Download Whitepaper For your Power BI projects to be successful, robust scale, performance, and cost management features are all essential. And that’s exactly what you’ll find with Azure Synapse Analytics—regardless of your industry or organization.Download the white paper to discover the benefits of Azure Synapse, such as: Learn how to solve problems around data siloes, performance limitations, and complex security requirements. Understand how your Power BI project can take advantage of unlimited concurrency, performance optimizations, centralized security, and a unified workspace. Find out how your insights-focused, end-user perspective makes you uniquely qualified to design and deliver high-performance, scalable, secure, and cost-effective analytics solutions. Download Whitepaper เราดีใจที่คุณยังนึกถึงเรา 👧🧔 และพร้อมดูแลคุณ 24 ชม. ผ่านทุกช่องทางที่คุณสะดวก 🖥 Web Chat: [[URL]] 📞 Tel: 02-055-1095 💙 Facebook Messenger: @netway.official 💚 Line ID: @netway หรือ https://bit.ly/line-netway 📧 Email: support@netway.co.th
新年快乐✨ซินเหนียนไคว่เล่อ🧨Happy Chinese New Year 2022 ⚡ NETWAY COMBO - Jan 2022 ⚡ อัพเดทสภานการณ์และเดิมอาหารสมองรับ 2022 👍คู่มือสำหรับ Azure VMware Solution มีเพื่อให้คุณเพื่อเรียนรู้วิธีย้ายระบบ VMware ของคุณไปยัง Azure อย่างราบรื่น https://bit.ly/3KZGYFS 🌏สถานการณ์ปัจจุบันที่พนักงานในภูมิภาคเอเชียต้องเผชิญ – โดยไมโครซอฟท์ https://bit.ly/3HlLj3G 💨คู่มือช่วยธุรกิจกลับมาเปิดใหม่ด้วยความปลอดภัยในภาวะ Remote Working https://bit.ly/3ITC7UF 🚀Energy Industry Digital Playbook https://bit.ly/3HiHzQF --------------------------------- เราดีใจที่คุณยังนึกถึงเรา 👧🧔 และพร้อมดูแลคุณ 24 ชม. ผ่านทุกช่องทางที่คุณสะดวก 🖥 Web Chat: [[URL]] 📞 Tel: 02-055-1095 💙 Facebook Messenger: @netway.official 💚 Line ID: @netway หรือ https://bit.ly/line-netway 📧 Email: support@netway.co.th
คู่มือช่วยธุรกิจกลับมาเปิดใหม่ด้วยความปลอดภัยในภาวะ Remote Working
Energy Industry Digital Playbook สำรวจแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดและแนวทางที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้ในนี้DOWNLOAD Sustainability is not just good for the planet, but for your business too. Case in point: the global renewable energy market is projected to be worth USD 2.15 trillion by 2025.1 In Southeast Asia, where energy demand is among the fastest-growing in the world, it’s critical for business and economic leaders to collectively embrace more sustainable energy sources to reduce the overall impact on our environment. The good news is, 90% of Southeast Asia’s carbon emissions can in fact be addressed by transitioning from fossil fuels to cleaner energy sources like wind and solar.2 Naturally, this presents huge growth opportunities for organizations that are primed to capture the exponential demand for renewable energy. Already, the tide is starting to shift towards green investments. In 2020, $9 billion was channelled towards green initiatives within the region by Southeast Asia’s investors. The signs are clear. The future of the energy industry is sustainable. Now, the question is: what can organizations like yours do to build a more resilient and sustainable business? ButtonDOWRead the newly released Digital Playbook – Energy to get answers, as you explore: The trends that are shaping the future of the energy industry How leading energy operators are transforming their energy value chain The four steps to power a sustainable future 1Forbes, Feb 10, 2021. Why Corporate Strategies Should Be Focused On Sustainability 2CNBC, Sep 30, 2021. Southeast Asia needs $2 trillion of investments to reduce emissions, new report finds
ไมโครซอฟท์ประกาศนำเสนอบริการใหม่ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม พร้อมเพิ่มความสามารถให้กับบริการที่คุ้นเคย เพื่อสนับสนุนพนักงานด่านหน้าโดยเฉพาะกรุงเทพฯ, 17 มกราคม 2565 – ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัวรายงานพิเศษ Work Trend Index หัวข้อ “เทคโนโลยีสามารถปลดล็อคอนาคตใหม่ให้กับพนักงานด่านหน้า” (Technology Can Help Unlock a New Future for Frontline Workers) พร้อมประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Microsoft Teams และ Microsoft Viva ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของพนักงานด่านหน้านับล้านคนทั่วโลกพนักงานด่านหน้าจำนวนกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลกมีสัดส่วนเป็นร้อยละ 80 ของจำนวนแรงงานทั่วโลกทั้งหมด โดยร้อยละ 88 ขององค์กรได้ว่าจ้างพนักงานในการให้บริการส่วนหน้า ในปัจจุบัน บริษัทต่าง ๆ กำลังเพิ่มการลงทุนในเครื่องมือดิจิทัลมากขึ้น เพื่อช่วยพนักงานด่านหน้าในการปรับปรุงขั้นตอนการทำงานให้ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และปรับปรุงวัฒนธรรมและการสื่อสารภายในสถานที่ทำงาน โดยไมโครซอฟท์พบว่ายอดผู้ใช้งานรายเดือนของ Microsoft Teams ในกลุ่มพนักงานด่านหน้าได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 400% นับตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นมารายงาน Work Trend Index ฉบับล่าสุดนี้ เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญซึ่งส่งผลกระทบต่อเกือบทุกกลุ่มของแรงงานทั้งหมด โดยมีประเด็นหลักๆ ดังนี้:ความห่วงใยคือหัวใจของการเดินหน้าต่อสำหรับสำหรับพนักงานด่านหน้า: ร้อยละ 76 ของพนักงานด่านหน้ารู้สึกผูกพันกับเพื่อนร่วมงาน แต่ละร้อยละ 60 กลับยังมองว่าบริษัทของพวกเขาควรให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมและการสื่อสารให้มากขึ้น นอกจากนี้ ร้อยละ 51 ของพนักงานด่านหน้าที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งระดับผู้จัดการขึ้นไปยังรู้สึกว่าองค์กรมองไม่เห็นคุณค่าของพวกเขาในฐานะพนักงาน โดยในประเทศออสเตรเลีย อินเดีย และญี่ปุ่น มีพนักงานที่มีความคิดเห็นเช่นนี้ ร้อยละ 52, 23 และ 75 ตามลำดับพนักงานด่านหน้ากำลังเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ: ท่ามกลางปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งงานครั้งใหญ่ พนักงานด่านหน้ามองว่าค่าตอบแทนและสวัสดิการที่ดีขึ้น รวมถึงความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต และความยืดหยุ่น ล้วนเป็นเหตุผลในการพิจารณาเปลี่ยนงาน นอกจากนี้ การพัฒนาทักษะยังเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับพนักงานด่านหน้าในประเทศอินเดียอีกด้วยความคาดหวังที่มีต่อเทคโนโลยีอยู่ในระดับสูง: ร้อยละ 63 ของพนักงานด่านหน้ารู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสทางอาชีพการงานที่เกิดจากเทคโนโลยี และเทคโนโลยียังถูกจัดให้เป็นปัจจัยสำคัญอันดับสามในการลดความตึงเครียดในสถานที่ทำงาน นอกจากนี้ ยังมีมุมมองที่น่าสนใจจากพนักงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกดังนี้:พนักงานด่านหน้าในประเทศออสเตรเลียใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยจัดตารางงานของคนในทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ร้อยละ 33) เตรียมความพร้อมพนักงานใหม่ในทีม (ร้อยละ 32) และตัดการเชื่อมต่อภายนอกสถานที่ทำงาน (ร้อยละ 30)ในประเทศอินเดีย พนักงานด่านหน้าใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือการทำงานด้านการใช้งาน VR/AR ของทีม (ร้อยละ 52) ติดตามและแจ้งข่าวสารกันแบบเรียลไทม์ (ร้อยละ 51) จัดตารางการทำงานของพนักงานภายในทีม (ร้อยละ 51) จัดการตารางงานอื่น ๆ (ร้อยละ 51) และสื่อสารกับบุคคลภายนอก (ร้อยละ 51)ในประเทศญี่ปุ่น พนักงานด่านหน้าพึ่งพาเทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือการทำงานซ้ำๆ ด้วยระบบอัตโนมัติ (ร้อยละ 23) เตรียมความพร้อมพนักงานใหม่ในทีม (ร้อยละ 20) จัดตารางการทำงานของพนักงานในทีม (ร้อยละ 19) ลดการใช้งานแอปพลิเคชัน (ร้อยละ 19) และลดการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ (ร้อยละ 19)ยังมีช่องว่างให้เติมเต็ม ด้านโอกาสการเรียนรู้เทคโนโลยี: ร้อยละ 46 ของพนักงานด่านหน้ารู้สึกว่าตนเองถูกกดดันให้ต้องปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้ไม่สูญเสียตำแหน่งงานของตัวเองไป ขณะที่ร้อยละ 55 กล่าวว่าพวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะใช้งานเทคโนโลยีใหม่ไปในขณะทำงานจริง โดยไม่ได้รับการฝึกอบรมหรือโอกาสในการทดลองใช้อย่างจริงจัง ในภูมิภาคเอเชีย มีพนักงานด่านหน้าที่มีความคิดเห็นเช่นนี้ร้อยละ 51 ในประเทศออสเตรเลีย ร้อยละ 56 ในประเทศอินเดีย และร้อยละ 66 ในประเทศญี่ปุ่นในวันนี้ ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัวบริการใหม่ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม รวมถึงความสามารถต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนพนักงานด่านหน้าโดยเฉพาะ ใน Teams และ Viva ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเพื่อส่งเสริมประสบการณ์การทำงานของพนักงานที่ถูกเปิดตัวในช่วงต้นปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมาไมโครซอฟท์ได้สานต่อความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์อย่างแข็งแกร่งกับ ซีบร้า เทคโนโลจีส์ คอร์ป (Zebra Technologies Corp) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันดิจิทัลแห่งนวัตกรรม ซึ่งรวมถึงซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ เช่นคอมพิวเตอร์พกพาระบบแอนดรอยด์ที่มีความทนทานสำหรับการทำงานของพนักงานด่านหน้า โดยทั้งสองบริษัทได้ร่วมมือกันนำเสนอแอปพลิเคชัน Teams Walkie Talkie และคอมพิวเตอร์พกพาของซีบร้าที่มีให้บริการหลากหลายรุ่น รวมถึงปุ่มกดแบบ “กดเพื่อพูด” (push-to-talk หรือ PTT) ที่ถูกออกแบบขึ้นโดยเฉพาะเพื่อเข้าถึงการใช้งาน Teams Walkie Talkie ผ่านอุปกรณ์ของซีบร้า นอกจากนี้ ปัจจุบัน ปุ่ม “กดเพื่อพูด” แบบดิจิทัลสำหรับ Teams Walkie Talkie ยังพร้อมให้ใช้งานแล้วในอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS เช่นเดียวกับแอนดรอยด์ไมโครซอฟท์เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยการผสาน Teams เข้ากับ Zebra Reflexis™ ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมต่อโซลูชัน Reflexis Workforce Management เข้ากับแอปพลิเคชัน Shift ใน Teams การผสมผสานในครั้งนี้ช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับการจัดตารางกะการทำงานและคำขอในการลาหยุดของพนักงานใน Teams โดยช่วยให้ผู้จัดการสามารถอนุมัติคำขอต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นการจัดตารางการต่อคิวเพื่อการนัดพบแบบออนไลน์พร้อมให้บริการแล้วใน Teams เพื่อให้ลูกค้าผู้ใช้บริการหรือผู้ป่วยในสถานพยาบาลอุ่นใจไปกับประสบการณ์ที่โปร่งใสและไร้กังวล สามารถติดตามข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ทั้งระยะเวลาการรอ การนัดพบที่พลาดไป หรือความล่าช้าของพนักงานแอปพลิเคชัน Viva Connections ใน Microsoft Teams ทำหน้าที่เชื่อมต่อพนักงานด่านหน้าเข้ากับวัฒนธรรมขององค์กร ทรัพยากรและเครื่องมือ ข่าวสาร และกลุ่มทรัพยากรสำหรับพนักงานในขั้นตอนการทำงาน การผสานการทำงานร่วมกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เช่น Workday และ Espressive ช่วยให้พนักงานกลุ่มนี้สามารถเข้าถึงทรัพยากรที่สำคัญขององค์กรได้ง่ายขึ้น และช่วยให้การดำเนินงานพื้นฐานอย่างการจัดการบัญชีเงินเดือนและบริการอื่น ๆ ของแผนกทรัพยากรบุคคลถูกนำมารวบรวมไว้ในที่เดียวกันแอปพลิเคชัน Viva Learning เปิดโอกาสให้พนักงานด่านหน้าสามารถค้นพบ แชร์ และติดตามเนื้อหาการเรียนรู้ที่เหมาะสมผ่าน Microsoft Teams จึงช่วยให้พนักงานทั่วทั้งบริษัทสามารถติดตามอัปเดทเกี่ยวกับการฝึกอบรมที่แนะนำและจำเป็นได้อย่างดายยิ่งขึ้น โดยการอัปเดทครั้งใหม่ช่วยอำนวยความสะดวกในการกำหนดการเรียนรู้จากโซลูชันพันธมิตร เช่น SAP SuccessFactors, Cornerstone OnDemand และ Saba Cloud และความร่วมมือกับผู้พัฒนาเนื้อหาด้านการเรียนรู้อย่าง EdCast และ OpenSesame ได้เปิดโอกาสให้พนักงานด้านหน้าได้พัฒนาทักษะเพิ่มเติม และฝึกอบรมด้วยเนื้อหาการเรียนรู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับขั้นตอนการทำงานผ่านเนื้อหาที่ครอบคลุมทุกประเด็นสำคัญสำหรับการดำเนินงานด้านไอที มีการบริหารจัดการอุปกรณ์ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ช่วยอำนวยความสะดวกในการค้นหาและปกป้องไม่ให้เกิดการรั่วไหลของข้อมูล ในกรณีที่มีอุปกรณ์ของพนักงานสูญหาย“เราทุกคนต่างเข้าใจดีว่าสถานการณ์โรคระบาดได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานของพนักงานทุกคน โดยส่งผลกระทบในระดับที่รวดเร็วกว่าที่เราเคยเห็นในอดีต” เอ็มม่า วิลเลียมส์ รองประธานกรรมการ ไมโครซอฟท์ กล่าว “การสนับสนุนพนักงานด่านหน้ายังคงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งในการปฏิรูปธุรกิจด้วยดิจิทัล ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรของเรา เราได้เตรียมความพร้อมให้กับพนักงานด่านหน้าด้วยเครื่องมือและบริการที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกับทีมงานและผู้บริหารได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น และยังมุ่งให้บริการลูกค้าหรือทำงานของตัวเองต่อไปได้อย่างดีในเวลาเดียวกัน เราเชื่อว่าเมื่อนำเทคโนโลยีไปใช้งานอย่างเหมาะสม จะสามารถปรับปรุงขั้นตอนการทำงานให้ทันสมัยและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรและการสื่อสารให้ดียิ่งขึ้นด้วย”นอกจากนี้ Microsoft Cloud for Retail จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป โดย Microsoft Cloud for Retail ช่วยเร่งการเติบโตของธุรกิจด้วยการมอบโซลูชันสำหรับอุตสาหกรรมค้าปลีกที่เชื่อถือได้ ผสานกับการทำงานของระบบค้าปลีกที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน เริ่มต้นจากการหลอมรวมข้อมูลจากหลากหลายแหล่งในแต่ละขั้นตอนของเส้นทางการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้า ซึ่งช่วยให้ธุรกิจค้าปลีกสามารถเพิ่มคุณค่าของข้อมูลได้ในระดับสูงสุด ส่งผลให้เกิดมุมมองต่อผู้บริโภคแบบองค์รวมเป็นหนึ่งเดียว เมื่อเชื่อมต่อกันแล้ว ข้อมูลและ AI จะช่วยให้ธุรกิจค้าปลีกมีความเข้าใจและประเมินประสบการณ์การซื้อสินค้าของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น การมอบประสบการณ์ที่มีความเกี่ยวข้องและคล่องตัวมากขึ้นตลอดทั้งโซ่คุณค่า (value chain) ของธุรกิจค้าปลีก จะทำให้ธุรกิจค้าปลีกสามารถสร้างห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ที่ยั่งยืนได้อย่างตรงตามสถานการณ์จริง นอกจากนี้ โซลูชันดังกล่าวยังรวมถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ ใน Teams และ Viva ที่ได้กล่าวถึงไปข้างต้นนี้ ซึ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนการทำงานของพนักงานหน้าร้านเราดีใจที่คุณยังนึกถึงเรา 👧🧔 และพร้อมดูแลคุณ 24 ชม. ผ่านทุกช่องทางที่คุณสะดวก🖥 Web Chat: [[URL]] 📞 Tel: 02-055-1095💙 Facebook Messenger: @netway.official 💚 Line ID: @netway หรือ https://bit.ly/line-netway📧 Email: support@netway.co.th