รู้หรือไม่ ? SME มีความเสี่ยงทำผิดกฎหมาย PDPA ในกิจกรรมใดบ้าง ที่มาของบทความนี้ https://pdpathailand.com/uncategorized/sme-risk-pdpa/ สาเหตุยอดฮิตปัญหาการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลในบริษัท SME เกิดจาก ‘การรั่วไหลจากภายใน’ เป็นที่ทราบดีว่าในการดำเนินธุรกิจยุคใหม่ ‘ข้อมูล’ คือทรัพย์สินสำคัญขององค์กร ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลลูกค้า/คู่ค้า, ข้อมูลของพนักงาน, ข้อมูลอีเมล, ข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญา ข้อมูลการเงิน ตลอดจนข้อมูลธุรกิจที่สำคัญอื่นๆ ที่ธุรกิจมีการรวบรวม จัดเก็บ ใช้งาน ประมวลผล หรือส่งต่อ รวมถึงทำประโยชน์ในด้านต่างๆ ทั้งในรูปแบบข้อมูลกระดาษและไฟล์ดิจิทัล และด้วยปัจจัยด้านต้นทุนการจัดการ ตลอดจนการมุ่งสร้างรายได้และการเติบโตมากกว่ามิติด้านความปลอดภัย เลยทำให้ที่ผ่านมา ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กส่วนใหญ่ไม่ได้มีมาตรการในการปกป้องและคุ้มครองข้อมูลที่เพียงพอ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด อาทิ การให้สิทธิ์พนักงานในการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่มีข้อจำกัด เป็นความเสี่ยงที่พบมากแทบทุกองค์กร ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ กรณีพนักงานนำข้อมูลลูกค้าไปขายหรือใช้ผิดวัตถุประสงค์ ประเด็นต่อมาคือ ด้านมาตรฐานในการปกป้องและรักษาข้อมูลที่ SME ส่วนใหญ่ยังมองว่าเป็นต้นทุนที่ ‘สิ้นเปลือง’ จึงทำให้บริษัท SME ส่วนใหญ่ไม่มีเจ้าหน้าที่เฉพาะด้านในการรักษา ปกป้องและจัดการข้อมูล ที่ผ่านมาจะเป็นในลักษณะการยกบทบาทนี้ให้ฝ่ายไอที หรือพนักงานที่รับผิดชอบต่องานนั่นๆ เป็นผู้จัดเก็บข้อมูล และกระจัดกระจาย ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดความเสี่ยงทั้งจากภายใน และภายนอก อาทิ การโดนโจมตีทางไซเบอร์และข้อมูลเกิดการรั่วไหล คำแนะนำในส่วนนี้ SME สามารถยับยั้ง และป้องกันได้โดยการปรับปรุงหรือลงทุนด้านอุปกรณ์ เทคโนโลยี มีพนักงานที่รับผิดชอบโดยตรง ตรวจเช็คและสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการให้ความรู้และแนวทางแก่พนักงานในการป้องกันการโดนโจมตีทางไซเบอร์ และตระหนักถึงค่านิยมการรักษาข้อมูลในองค์กร แต่จะเห็นได้ว่ามิติที่กล่าวถึงในข้างต้น ทั้งความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก และภายในล้วนเกิดการ ‘มุมมองการถูกกระทำ’ คือ การที่บริษัท หรือเจ้าหน้าที่ภายในบริษัทถูกละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล แต่อย่าลืมว่าภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำลังจะประกาศใช้ในเร็วๆ นี้ บริษัท SME อาจจะเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย PDPA โดยการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลผู้อื่น ซึ่งในที่นี้เรามีกรณีตัวอย่างที่ธุรกิจคุณอาจกำลังทำผิดกฎหมายอยู่7 เรื่องที่ SME อาจเข้าข่ายกำลังทำผิดกฎหมาย PDPA ซะเองใช้อีเมลภายในองค์กร: หนึ่งในกรณีศึกษายอดฮิตของการละเมิดข้อมูลระหว่างบริษัทกับบุคคล อ้างอิงตามสาระสำคัญตามกฎหมาย PDPA ได้นิยามข้อมูลส่วนบุคคลไว้ว่า ‘ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนบุคคลทั้งทางตรงและทางอ้อม’ และ ‘อีเมล’ ก็เป็นสิ่งที่ถูกส่งต่อกันโดยที่บางครั้ง ลูกค้า คู่ค้า ผู้ประสานงาน หรือพนักงานก็ยังไม่ได้ยินยอมให้มีการเปิดเผย รวมทั้งมีสิทธิ์ที่จะไม่ยินยอมให้เปิดเผยได้ด้วย และหากมีการเปิดเผยก็เข้าข่ายการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลในทันที ใช้ ‘LINE’ เป็นช่องทางติดต่อสื่อสารภายในองค์กร : อีกประเด็นที่อาจจะนำไปสู่การละเมิดได้ง่ายมากคือ การใช้แอปพลิเคชันติดต่อสื่อสารภายในองค์กร ยกตัวอย่างที่การใช้ LINE Chat, LINE Group ที่มีการส่งรูปภาพ สำเนาเอกสาร ข้อมูลลูกค้า/คู่ค้า ข้อมูลพนักงาน หรือเอกสารต่างๆ ที่ส่งต่อกันใน LINE Group ของบริษัท เข้าข่ายมีความผิดหากมีการเผยแพร่หรือส่งต่อให้บุคคลที่สามโดยเจ้าของข้อมูลไม่ได้ยินยอม ในเคสนี้ก็หมายรวมถึงแอปพลิเคชันแชทต่างๆ ด้วย ประชุมออนไลน์ : การเข้าใช้งานแพลตฟอร์มประชุมออนไลน์ในปัจจุบันเรามักจะเห็นว่ามีการใช้กด ‘Term of Service’ หรือการ ‘ยินยอม’ ให้เข้าถึงข้อมูลตัวบุคคลและเก็บคุกกี้เพื่อประโยชน์ในกิจกรรมต่างๆ ของผู้ให้บริการ แต่นั่นก็เป็นการยินยอมระหว่าง แพลตฟอร์มผู้ให้บริการ กับ ผู้ใช้บริการ ไม่ได้หมายรวมถึง การอนุญาตให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถบักทึกภาพ เสียง การประชุมที่เปิดเผยใบหน้า ชื่อ หรือข้อมูลส่วนตัวของบุคคลอื่นที่เข้ารวมประชุมไปเผยแพร่ต่อได้ ยิ่งหากบริษัทจะมีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในด้านต่างๆ ควรมีการแจ้งบอกวัตถุประสงค์การใช้งาน และขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นก็เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย PDPA ไม่ว่าจะจงใจหรือไม่ก็ตาม ติดกล้องวงจรปิดไว้ในสถานประกอบการ : ติดกล้อง CCTV เพื่อบันทึกภาพ และเสียง ไว้ในบริษัท หากไม่แจ้งให้ทราบอาจนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและถูกฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา ดังจะเห็นว่าในสถานประกอบการทุกวันนี้มีการติดกล้องวงจรปิดเพื่อประโยชน์ในด้านต่างๆ แต่ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลระบุ หากมีการติดกล้องวงจรปิดจะต้องมีการแจ้งให้ทราบอย่างชัดเจน ไม่หลบซ่อน ซึ่งนี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถูกละเลย และข้อควรระวัง ตรวจสอบประวัติพนักงาน : แค่ตรวจสอบประวัติพนักงานเพื่อพิจารณาเข้าทำงานก็มีความผิดเหรอ? ผิดแน่หากคุณทำธุรกิจด้านบริษัทรักษาความปลอดภัย แม่บ้าน หรืองานขับรถขนส่งและได้นำข้อมูลส่วนตัว หรือหมายเลขบัตรประจำตัวของบุคคลที่มาสมัครงานไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ‘ข้อมูลอาชญากรรม’ โดยไม่ได้รับการยินยอมจากบุคคลนั้น เพราะนี่เข้าข่ายการละเมิด ‘ข้อมูลอ่อนไหว’ ที่สุ่มเสี่ยงโทษจำคุก และค่าปรับสูงถึง 5 ล้านบาท และยังไม่รวมค่าสินไหมทดแทนอีกด้วย เก็บข้อมูลสุขภาพ / ลายนิ้วมือ/ใบหน้า : ธุรกิจส่วนใหญ่มีการใช้ข้อมูลชีวภาพ ในการยืนยันตัวตน อาทิการแสกนลายนิ้วมือเข้าทำงานของพนักงาน จำเป็นต้องขอความยินยอมอย่างชัดแจ้ง หรือแม่แต่การเก็บข้อมูลสุขภาพพนักงาน หากไม่แจ้งให้เจ้าของข้อมูลหรือพนักงานทราบก็เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย PDPA เช่นกัน การใช้บุคคลภายนอกส่งเอกสารให้ลูกค้า : หากเป็นเจ้าหน้าที่ Messenger ภายในองค์กรทำหน้าที่ส่งเอกสารหรือสิ่งของต่างๆ ให้กับลูกค้า หรือคู่ค้าเองก็ไม่มีความเสี่ยงมากนัก แต่เมื่อใดก็ตามที่บริษัทใช้บริการมอเตอร์ไซด์รับจ้าง หรือไรเดอร์ที่เป็นบุคคลธรรมดาเพื่อส่งเอกสารหรือสิ่งของต่างๆ โดยให้ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร แก่ผู้จัดส่งก็อาจเสี่ยงที่ข้อมูลนั้นอาจถูกละเมิดได้ เพราะคงไม่มีสัญญาการให้บริการส่งของที่คุ้มครองข้อมูลอย่างเป็นมาตรฐานระหว่างกันอย่างไรก็ตาม จากทั้ง 7 เรื่องความเสี่ยงของบริษัท SME ในการกระทำที่เข้าข่ายการละเมิดของมูลส่วนบุคคล กระทำผิดกฎหมาย PDPA ยังมีอีกหลายประเด็นที่เรายังไม่ได้กล่าวถึง และจะกล่าวถึงในบทความต่อๆ ไป อันเนื่องจากยังสามารถ ‘ตีความ’ การกระทำผิดตามบทบัญญัติใน พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือ กฎหมาย PDPA ที่เกี่ยวโยงกับธุรกิจได้อีกในหลายๆ ด้าน ด้วยเหตุนี่ มาตรการป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย PDPA ที่ผ่านมา องค์กรและบริษัทต่างเริ่มมีการจัดทำ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy notice) รวมถึงการทำเอกสารขอความยินยอม (Consent) เพื่อชี้แจงรายละเอียด และรูปแบบ วิธีการจัดการข้อมูล ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า/คู่ค้า รวมทั้งการกำหนดวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมใช้ เปิดเผย และประมวลผล ตลอดจนระยะเวลาในการเก็บรักษาอย่างชัดเจน หรือแม้แต่มีการประเมินผลกระทบด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPIA) ป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ที่กำลังประกาศใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 นี้ สำหรับ ธุรกิจใดที่ยังไม่ได้ทำ หรือยังไม่ได้เริ่มทำ คำแนะนำเดียวคือเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่ ‘ความเสี่ยง’ จะกลายเป็น ‘ความซวย’ มาเยือนในอนาคต ✅Microsoft 365 Business Premium 8,778THBต่อผู้ใช้ต่อปี ❤ไม่ต้องซื้อ antivirus เพิ่ม ❤สอดคล้องกับPDPA สนใจติดต่อ Netway Communication ได้ตลอด 24 ชม.ผ่านทุกช่องทางที่คุณสะดวก Web Chat: [[URL]] Tel: 02-055-1095 Facebook Messenger: @netway.official Line ID: @netway หรือ https://bit.ly/line-netway Email: support@netway.co.th
ทำธุรกิจยุคไฮบริด เซฟธุรกิจให้ปลอดภัย เลือกใช้ Microsoft 365 Business Premium การทำงานในทุกวันนี้มีรูปแบบที่เปลี่ยนไปอยากมาก ความสามารถในการทำงานได้จากทุกที่ หรือที่เราเรียกว่า Hybrid work กำลังเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายบริษัทเริ่มนำมาใช้กันในช่วงสองปีที่ผ่านมา ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากโดยเฉพาะมิติของเครื่องที่ถูกนำมาใช้งานในบริษัท ปัจจุบันนี้หลายๆ ที่ก็อนุญาตให้พนักงานสามารถนำเครื่องส่วนตัวมาใช้กับเรื่องงานได้ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัทพ์มือถือ แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊ก ตรงส่วนนี้ทำให้การบริหารจัดการเรื่องความปลอดภัยจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญว่าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเครื่องที่พนักงานแต่ละคนใช้อยู่นั้นมีความปลอดภัยไม่ต่างจากการใช้งานผ่านเครื่องคอมพ์ของบริษัทที่บางแห่งมีการบังคับใช้ Policy อย่างเข้มข้น ขณะเดียวกันก็ไม่ไปกระทบกับความเป็นส่วนตัวของพนักงาน และถ้าเกิดว่าเครื่องของพนักงานไปเผลอกด link แปลกๆ จากแฮกเกอร์ เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าข้อมูลหรืองานของบริษัทนั้นจะไม่รั่วไหลไปสู่ภายนอก วันนี้เราจะมาแนะนำให้ทุกคนได้ทราบถึงเทคนิคที่จะเซฟธุรกิจให้ปลอดภัย ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและเชื่อถือได้ ภัยจากโจรกรรมข้อมูลบนออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เมื่อความปลอดภัยของข้อมูลมีช่องโหว่ ในยุคที่ Antivirus และ Firewall อาจไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับแฮกเกอร์ที่จ้องโจมตีเรียกค่าไถ่ การดูแลความปลอดภัยของข้อมูลจึงเป็นเรื่องที่ธุรกิจให้ความสำคัญ เจ้าของระบบปฏิบัติการอย่าง Microsoft เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น และได้พัฒนาเทคโนโลยีช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับธุรกิจที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้งานเซิร์ฟเวอร์จากระยะไกล หรือ Remote Working โดยได้พัฒนาระบบความปลอดภัยสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ให้มีเครื่องมือในการป้องกันที่ดีพอ กับ 4 ตัวช่วยหลัก ที่อยู่ในบริการของ Microsoft 365 Business Premium 1.ระบบให้สิทธิ์การใช้งาน (Access Control) เทคโนโลยีที่ชาญฉลาดจะช่วยตรวจสอบความผิดปกติของผู้ที่ login เข้ามาในระบบ รวมถึงตรวจสอบตำแหน่งของอุปกรณ์จาก IP Address ที่ใช้เชื่อมต่อ ซึ่งมีความปลอดภัยและรัดกุมมากกว่าการใช้รหัสผ่าน สามารถป้องกันการแฮกได้มากถึง 99.99% อีกทั้งสามารถกำหนดสิทธิ์ผู้ใช้งานให้เหมาะสมในการเข้าถึงไฟล์ หรือโฟลเดอร์สำคัญ เช่น กำหนดสิทธิ์ให้เปิดอ่านไฟล์ได้อย่างเดียวโดยไม่สามารถคัดลอก หรือแก้ไขไฟล์ที่เป็นความลับ รวมถึงมีระบบอีเมลที่น่าเชื่อถือ สามารถสกัดกั้นอีเมลแปลกปลอมไม่ให้เข้ามาในระบบ Microsoft 365 Business ช่วยยกระดับด้านความปลอดภัยมากขึ้นสำหรับ Office App เครื่องมือที่ช่วยเพิ่มการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การประชุมงานแบบ Professtional ผ่าน Microsoft Team และระบบจัดเก็บข้อมูล Personal Storage ขนาด 1 TB ที่เชื่อมต่อผ่าน Mobile Device ช่วยลดการใช้งาน Flash Dive ที่อาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง 2.จัดการอุปกรณ์เชื่อมต่อ (Device Manager) เพราะข้อจำกัดของการทำงานที่บ้าน คือห่างไกลจากเจ้าหน้าที่เทคนิคด้านไอที ดังนั้นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะต้องมั่นใจได้เรื่องความปลอดภัยเมื่อถูกเชื่อมต่อเข้ากับระบบขององค์กร Microsoft 365 Business ได้เพิ่มโซลูชั่นช่วยจัดการอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ที่ครอบคลุมทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ซึ่งจะช่วยป้องกันการส่งต่อไฟล์แนบผ่านเครื่องมือส่วนตัว 3.ป้องกันไม่ให้ข้อมูลสำคัญหลุด (Azure information Protection) หัวใจสำคัญของธุรกิจในยุคที่ข้อมูลลูกค้าต้องถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัย การดูแลข้อมูลภายใต้ระบบธรรมมาภิบาล Data Goverment ที่จำเป็นต้องปกป้องไฟล์ที่ Sensitive Data Loss Prevention (DLP) คือส่วนสำคัญของระบบความปลอดภัยที่จะช่วยลดความเสี่ยงให้กับองค์กร กรณีที่ถูกโจรกรรมข้อมูลจากบุคคลภายนอก Microsoft 365 Business ช่วยปกป้องการโจรกรรมข้อมูลผ่านอีเมล Exchange และ Onedrive รวมถึงแจ้งเตือนได้ในกรณีที่เกิดความเสี่ยง4.หลีกเลี่ยงภัยคุกคามจากภายนอก (Microsoft Defender for Office 365 Plan 1) ปัญหาใหญ่ของการถูกแฮก มักพบใน E-mail แปลกปลอมที่แนบจากลิงก์ หรือไฟล์ที่มีมัลแวร์แผงมาด้วย ระบบของ Microsoft 365 Business จะช่วยตรวจสอบในด่านหน้า เพื่อไม่ให้ไฟล์อันตรายเหล่านั้นหลุดมาถึงมือของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ตาม แม้ตอนนี้ E-mail จะมีระบบกรองมัลแวร์หรือ Defender ของ ป้องกันอยู่แล้ว แต่ความพิเศษของ Microsoft 365 Business คือได้อัปเดตระบบด้านความปลอดภัยให้มีความทันสมัย โดยเพิ่ม Zero-day Detection เพื่อรับมือกับฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ถูกพัฒนาโดยเหล่าแฮกเกอร์ ซึ่ง Microsoft ได้รวบรวมข้อมูล Signal Data จากผู้ใช้งาน Windows ทั่วโลก มาใช้เป็นองค์ความรู้ในการพัฒนาระบบป้องกันที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพมากที่สุด Microsoft 365 Business ถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานที่หลากหลาย และมีความยืดหยุ่นมาก แม้แต่ธุรกิจขนาดเล็กที่มีพนักงานไม่ถึง 300 คน ก็สามารถเข้าถึงระบบความปลอดภัยขั้นสูง ใกล้เคียงกับระบบป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ได้จุดเด่นของ Microsoft 365 Business Plans คือมี 3 แพคเกจให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของธุรกิจ 1.Microsoft 365 Business Basic สามารถใช้งาน Office Online ผ่านเบราเซอร์ รวมถึงบริการ E-mail 50 GB ต่อ User , Onedrive 1 TB , Form , Microsoft Team ที่สามารถใช้งานได้ถึง 300 Users ราคาพิเศษ 1,055THBต่อผู้ใช้ต่อปี ลดจากราคาปกติ 2,344THBต่อผู้ใช้ต่อปี (as of 29/4/22) 2.Microsoft 365 Business Standard สามารถดาวน์โหลด Offfice Application มาใช้งานได้บน Desktop รวมถึงได้สิทธิ์ใช้งานMicrosoft Booking ราคาพิเศษ 3,990THBต่อผู้ใช้ต่อปี ลดจากราคาปกติ 4,988THBต่อผู้ใช้ต่อปี (as of 29/4/22)3.Microsoft 365 Business Premium เพิ่มเติมฟีเจอร์สำคัญด้านความปลอดภัย รองรับการใช้งาน Azure เวอร์ชั่น Desktop รับสิทธิ์การอัปเกรดจาก Windows 7 หรือ Windows 10 ไป 11 ฟรี รวมถึงใช้งาน Cloud ได้ภายใต้การปกป้องขั้นสูงสุด ในราคา 8,778THBต่อผู้ใช้ต่อปี ❤ไม่ต้องซื้อ antivirus เพิ่ม ❤สอดคล้องกับPDPA สนใจติดต่อ Netway Communication ได้ตลอด 24 ชม.ผ่านทุกช่องทางที่คุณสะดวก Web Chat: [[URL]] Tel: 02-055-1095 Facebook Messenger: @netway.official Line ID: @netway หรือ https://bit.ly/line-netway Email: support@netway.co.thที่มาของบทความนี้ https://www.techhub.in.th/4-tip-to-protect-your-business-with-microsoft-365-business-premium
Microsoft เตรียมจะยุติการสนับสุนุน Microsoft Office 2013 ภายในวันที่ 11 เมษายน 2023 ตามนโยบาย Lifecycle Policy หลังจากที่ Office 2013 สิ้นสุดการสนับสนุน Microsoft จะไม่ให้การอัปเดตด้านความปลอดภัยใดๆ และการใช้ Office 2013 อย่างต่อเนื่องหลังจากเดือนเมษายน 2023 อาจเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยขององค์กรหรือส่งผลกระทบต่อความสามารถของในการปฏิบัติตามข้อกำหนดบางอย่างจาก Microsoftนอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว Microsoft จะยุติบริการหลาย ๆ อย่างแก่เจ้าของลิขสิทธิ์ Office 2013 รวมถึงการสนับสนุนด้านเทคนิค การแก้ไขจุดบกพร่อง และโปรแกรมแก้ไขความปลอดภัยสำหรับปัญหาใหม่แล้วยังสามารถใช้งานได้อยู่ไหม ? คำตอบคือยังใช้งานได้อยู่นะ ซึ่งเหมือน ๆ กับโปรแกรมอื่น ๆ ของ Microsoft ไม่ว่าจะเป็น Office เวอร์ชั่นที่เก่ากว่า หรือ Windows 7 ที่ทุกวันนี้ยังมีคนใช้งานอยู่ แค่ Microsoft ไม่ได้ออกอัปเดตใด ๆ เพิ่มเติมให้แล้ว พร้อมทั้งบัคที่เกิดขึ้นใหม่ ก็จะไม่แก้ไขให้ด้วยครับที่มาข้อมูลhttps://www.techhub.in.th/microsoft-office-2013-will-reach-end-of-support-in-april-2023/https://www.bleepingcomputer.com/news/microsoft/microsoft-office-2013-will-reach-end-of-support-in-april-2023
สามารถต่ออายุได้ล่วงหน้า 30 วัน การต่ออายุ SSL Certificate เดิมที่ใกล้จะหมดอายุ ทางผู้ออกใบอนุญาต SSL Certificate จะเริ่มให้ต่ออายุล่วงหน้าได้ 1 เดือนก่อนที่ Certificate เก่าจะหมดอายุ ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เว็บไซต์หรือ Application ต่างๆ ไม่สามารถใช้งาน SSL ได้นั้น ทาง Netway แนะนำให้ท่านสามารถต่ออายุ ล่วงหน้าได้ทันทีเมื่อได้รับแจ้งเตือนผ่านอีเมล์จากทีมงานว่า SSL Certificate ของท่านใกล้จะหมดอายุ รอบการแจ้งเตือน1.แจ้งเตือน ครั้งที่#1 ด้วยระบบ อัตโนมัติทางอีเมล์ โดยส่งไปยังเมล์ contact ที่อยู่บนระบบ Netway ล่วงหน้า 2 เดือน 2.แจ้งเตือน ครั้งที่#2 โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทางอีเมล์ โดยส่งไปยังเมล์ contact ที่อยู่บนระบบ Netway พร้อมกับ contact ที่ติดต่อฝ่ายขายเดิม3.แจ้งเตือนครั้งที่ #3 โดยการโทรแจ้งจากเจ้าหน้าที่ดังนั้นเพื่อป้องการการต่ออายุไม่ทัน ทางเราแนะนำให้ท่าน confirm กลับหลังจากฝ่ายขายเมล์แจ้งเตือน และเตรียมพร้อมด้านข้อมูลในการสั่งซื้อเพื่อต่ออายุใหม่ดังนี้ ส่งหลักฐานการชำระค่าบริการ Confirm ข้อมูลสั่งซื้อเดิม เช่น 2.1 ผู้ติดต่อ คือ คุณxxxxx xxxxx 2.2 Email Address คือ xxxx@netway.co.th 2.3 เมล์ที่ใช้กด approve เป็นเมล์เดิมหรือไม่ คือ xxx สรัาง CSR ชุดใหม่ทุกครั้งที่มีการสั่งซื้อต่ออายุ (ดังนั้นคุณจะมี Key และ CSR ใหม่) ไม่สามารถใช้ Key หรือ CSR เดิมได้ การต่ออายุ Certificate นั้น จะสามารถใช้งานได้ทันทีหลังจากได้รับ Certificate และวันเริ่มต้นนั้นจะเป็นวันที่ได้รับ Certificate แต่วันหมดอายุจะนับต่อจากวันหมดอายุของ Certificate เดิม ในบางแบรนด์วันที่ระยะสัญญาอาจจะมีความคลาดเคลื่อนน้อยจากวันหมดอายุเดิม 1 วัน เนื่องจากเป็นเรื่องของ Time Zone ของต่างประเทศ หรือระยะสัญญาอาจเท่าเดิม หรือได้มากกว่า ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละแเบรนด์นั้นๆอ่านเพิ่มเติม : อายุ Certificate ที่ได้รับหลังจากการต่ออายุ (Renew)หมายเหตุ : กรณีต่ออายุ SSL ประเภท OV, EV ไม่ทันตามช่วงเวลาที่แนะนำ อาจจะต้องใช้เวลารอกระบวนการจากต่างประเทศในการตรวจสอบองค์กรใหม่ ซึ่งอาจทำให้ได้ Certificate ล่าช้ากว่ากำหนด __________________________________________________________________________________________________ Netway Communication ผู้ให้บริการ SSL อันดับหนึ่งของประเทศไทย เป็นตัวแทนแบรนด์ไอทีชั้นนำมากมาย คุ้มกว่าซื้อตรงกับราคาขายของเจ้าของแบรนด์ และไม่เสียภาษีนำเข้า พร้อมบริการตลอด 24 ชม. ออกบิล VAT ได้ ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ Line : @netway (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://bit.ly/line-netwayFacebook : m.me/netway.offcialTel : 02-055-1095Email : support@netway.co.thWeb Chat : [[URL]]/ #ให้เราช่วยคุณเรื่องไอที #การสื่อสาร Netway #มีครบจบที่เดียว #SSL
🍀 NETWAY COMBO - Mar 2022 🍀 มาแล้วลูก...ค้าจ๋า โปรโมชั่นและเนื้อหาที่คุณอยากได้ 👏 Promotion ย้ายฟรีมาเป็น Microsoft 365 ได้คูปองส่วนลดขั้นต่ำ 3,000THB พร้อมใช้งาน Teams, Word, Excel, PowerPoint ฯลฯ วันนี้ - 30 มิ.ย. 2022 https://bit.ly/3JQxQ5g .📢 เน็ตเวย์ฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO/IEC 29110 https://bit.ly/3DohaQl💨 Microsoft 365 Business Premium ทำอะไรได้บ้าง https://bit.ly/3wVKbl1 .🚀 สไลด์และวิดีโอ Webinar: The Future of Work with Microsoft Dynamics 365 Business Central https://bit.ly/3qR1VtU . --------------------------------- เราดีใจที่คุณยังนึกถึงเรา 👧🧔 และพร้อมดูแลคุณ 24 ชม. ผ่านทุกช่องทางที่คุณสะดวก 🖥 Web Chat: [[URL]] 📞 Tel: 02-055-1095 💙 Facebook Messenger: @netway.official 💚 Line ID: @netway หรือ https://bit.ly/line-netway 📧 Email: support@netway.co.th