Veeam Backup Free Edition (VeeamZIP) ใน Function Backup สำหรับ Veeam Backup Free Edition จะมีให้ใช้งานได้ 2 ส่วนหลักๆ คือ File Copy และ VeeamZIP ที่แตกต่างกันคือ VeeamZIP จะไม่มี Schedule Task UI มาให้ แต่เราสามารถตั้ง Schedule ได้โดยกำหนดที่ Windows Schedule Task ของ Windows โดยลักษณะการทำงาน VeeamZIP จะทำงานได้เร็วกว่า และใช้ขนาดพื้นที่น้อยกว่า เนื่องจากมีการทำ Compress File ก่อนการ Transfer มาเก็บไว้ที่ Repository ที่เรากำหนดไว้ นอกจากนี้ยังพบว่า VeeamZIP สามารถทำงานได้ดีแและเสถียรกว่า โดยลดการ Error เมื่อ File Interrup ระหว่าง Transfer ข้อมูล ซึ่งจะพบบ่อยหากใช้ Function File Copy ทำให้ File ที่ Transfer มา Error หรือไม่สมบูรณ์ (ส่วนมากพบกับ VM ที่ Online อยู่) การตั้งค่า 1. สำหรับ VMware ให้ Download PowerShell Script เพื่อกำหนด Job Backup ที่ https://www.veeam.com/blog/wp-content/uploads/2015/05/VeeamZIP-VI-updated.zip 2. กำหนดค่า PowerShell Script ที่ Download มาดังนี้ ################################################################## # User Defined Variables ################################################################## # กำหนดชื่อ VM ที่ต้องการ Backup แยก VM ด้วย "," เช่น "VM1","VM2","VM3" $VMNames = "" # กำหนด Hostname หรือ IP ของ vCenter Server $HostName = "" # กำหนด Directory ที่ต้องการเก็บ Backup เช่น "C:\Backup" $Directory = "" #Optionally, you can change compression level and desired retention, disable VMware quiescence, enable encryption or even notification settings: # Desired compression level (Optional; Possible values: 0 - None, 4 - Dedupe-friendly, 5 - Optimal, 6 - High, 9 - Extreme) $CompressionLevel = "5" # Quiesce VM when taking snapshot (Optional; VMware Tools or Hyper-V Integration Components are required for this in the guest OS; Possible values: $True/$False) $EnableQuiescence = $True # Protect resulting backup with encryption key (Optional; $True/$False) $EnableEncryption = $False # Encryption Key (Optional; path to a secure string) $EncryptionKey = "" # Retention settings (Optional; by default, VeeamZIP files are not removed and kept in the specified location for an indefinite period of time. # Possible values: Never, Tonight, TomorrowNight, In3days, In1Week, In2Weeks, In1Month) $Retention = "Never" #If you like to get an email report once the backup is completed, you should additionally fill out the following notification settings. ################################################################## # Notification Settings ################################################################## # Enable notification (Optional) $EnableNotification = $True # กำหนด SMTP Server สำหรับส่งอีเมล์ Alert $SMTPServer = "" # กำหนด Email Address ผู้ส่ง $EmailFrom = "" # กำหนด Email Address ผู้รับ $EmailTo = "" # กำหนด Subject Email $EmailSubject = "" # Email formatting $style = “” ################################################################## # End User Defined Variables ################################################################## #################### DO NOT MODIFY PAST THIS LINE ################ Asnp VeeamPSSnapin $Server = Get-VBRServer -name $HostName $mbody = @() foreach ($VMName in $VMNames) { $VM = Find-VBRViEntity -Name $VMName -Server $Server $ZIPSession = Start-VBRZip -Entity $VM -Folder $Directory -Compression $CompressionLevel -DisableQuiesce:(!$EnableQuiescence) -AutoDelete $Retention If ($EnableNotification) { $TaskSessions = $ZIPSession.GetTaskSessions() $FailedSessions = $TaskSessions | where {$_.status -eq “EWarning” -or $_.Status -eq “EFailed”} if ($FailedSessions -ne $Null) { $mbody = $mbody + ($ZIPSession | Select-Object @{n=”Name”;e={($_.name).Substring(0, $_.name.LastIndexOf(“(“))}} ,@{n=”Start Time”;e={$_.CreationTime}},@{n=”End Time”;e={$_.EndTime}},Result,@{n=”Details”;e={$FailedSessions.Title}}) } Else { $mbody = $mbody + ($ZIPSession | Select-Object @{n=”Name”;e={($_.name).Substring(0, $_.name.LastIndexOf(“(“))}} ,@{n=”Start Time”;e={$_.CreationTime}},@{n=”End Time”;e={$_.EndTime}},Result,@{n=”Details”;e={($TaskSessions | sort creationtime -Descending | select -first 1).Title}}) } } } If ($EnableNotification) { $Message = New-Object System.Net.Mail.MailMessage $EmailFrom, $EmailTo $Message.Subject = $EmailSubject $Message.IsBodyHTML = $True $message.Body = $mbody | ConvertTo-Html -head $style | Out-String $SMTP = New-Object Net.Mail.SmtpClient($SMTPServer) $SMTP.Send($Message) } 3. สร้าง Schedule Backup Task โดยไปที่ Task Schedule บน Windows แล้วคลิ๊กขวา Create a Basic Task 4. ตั้งชื่อ Task Name แล้ว Next 5. ตั้ง Trigger กำหนดเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนเป็นต้น แล้ว Next 6. กำหนดเวลาที่ต้องการ Start แล้ว Next 7. กำหนด Action เลือก Start a program เพื่อรัน PowerShell Script ที่เราสร้างไว้ แล้ว Next 8. ระบุ Path ที่เก็บ PowerShell Script .ps1 ตัวอย่าง “Powershell -file C:\VeeamZip.ps1” แล้วคลิ๊ก Next 9. กด Finish เราสามารถ Run Task ได้ทันที โดยคลิ๊กขวาที่ Task ที่สร้างแล้วคลิ๊ก Run กำหนดการตั้งค่าอื่นๆ เพิ่มเติม โดยคลิ๊กขวาที่ Task แล้วเลือก Properties *** Process ที่รันจะแสดงที่ Task บนหน้า Dashboard ของ Veeam Client Note: ก่อนกำหนดการตั้งค่าให้ Authentication และ Add vCenter Server ที่ต้องการ Backup VM จาก Veeam Panel ก่อน อ้างอิง: https://www.veeam.com/blog/veeam-backup-free-edition-now-with-powershell.html
ปัญหา: ไม่สามารถ Login administrator ได้ เนื่องจาก Password ไม่ถูกต้อง แก้ไข: 1. ตั้งค่า VM ให้ boot จาก DVD หรือ ISO (ขั้นตอนนี้ต้องกดปุ่ม Esc เพื่อสามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไป) 2. From the Windows Setup menu, click “Next”. 3. Select “Repair your computer” 4. Under Choose and option, click on “Troubleshoot”. 5. Under Advanced options, click “Command Prompt”. หลังจากขั้นตอนนี้จะให้เลือก User คือ Administrator (Password: Password เดิมที่เคย Login) 6. At the command prompt, run the following commands: d: cd windows\system32 ren Utilman.exe Utilman.exe.old copy cmd.exe Utilman.exe 7. Close the command prompt and then click “Continue”. 8. The server should now boot and present the logon screen. Here click Windows Key + U. 9. At the prompt you can now change the password, by typing the following command: net user administrator Password123 10. This will set the password for the Administrator user to be Password123 (case sensitive) Cleanup Steps Once you have verified you can log on to the server you will have repeat the steps above and boot using the Windows Server 2008 DVD/ISO and run the command prompt again. Restart your server and once again, boot from the Microsoft Windows Server 2012 DVD From the Windows Setup menu, click “Next”. Select “Repair your computer” Under Choose and option, click on “Troubleshoot”. Under Advanced options, click “Command Prompt”. At the command prompt, run the following commands: d: cd windows\system32 ren utilman.exe utilman.exe.new copy utilman.exe.old utilman.exe Close the command prompt and then click “Continue”. You should be back up and running as if nothing ever happened.
อธิบายขั้นตอนการ Reset Administrator Password สำหรับ Windows Server ดังนี้ Windows Server 2012 1. Login ด้วย RDP ไปที่ Server 2. กด Windows Key แล้วคลิ๊ก Administrative Tools 3. ดับเบิ้ลคลิ๊ก Computer Management 4. Expand Local Users and Groups และเลือก Users 5. คลิ๊กขวา Administrator และคลิ๊ก Set Password >> Proceed 6. กำหนด Password ใหม่และ OK Windows Server 2008 1. Login ด้วย RDP ไปที่ Server 2. คลิ๊กขวา Computer และเลือก Manage 3. ดับเบิ้ลคลิ๊ก Configuration 4. Expand Local Users and Groups และเลือก Users 5. คลิ๊กขวา Administrator และคลิ๊ก Set Password >> Proceed 6. กำหนด Password ใหม่และ OK
1. รายละเอียดบริการ อธิบายถึงการยกเลิกและ Terminate บริการ Windows VMware เนื่องจากผู้ใช้บริการขอยกเลิกบริการ, ผู้ใช้บริการทำผิดเงื่อนไขการให้บริการ, ผู้ใช้บริการค้างชำระค่าบริการเกินกว่า 30 วัน เป็นต้น 2. สิทธิในการร้องขอ Email เจ้าของ Client Account ที่สมัครไว้กับ netway.co.th 3. เงื่อนไขในการร้องขอ กรณียกเลิกเนื่องจากหมดอายุสัญญา เป็นการยกเลิกบริการเนื่องจากระยะสัญญาสิ้นสุดลงและลูกค้าไม่ดำเนินการต่ออายุสัญญา โดยผู้ใช้บริการต้องแจ้งยกเลิกบริการก่อนที่บริการจะหมดอายุ 30 วัน เป็นลายลักษณ์อักษรทาง E-mail จาก Main Contact เท่านั้น กรณีผิดเงื่อนไขการให้บริการ ผู้ใช้บริการไม่ดำเนินการแก้ไขส่วนที่ผิดเงื่อนไขในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกบริการและจะคืนค่าบริการในส่วนที่เหลือทั้งหมด ยกเว้นค่าติดตั้งและค่าดำเนินการอื่นๆ 4. ขั้นตอนการร้องขอ ส่งอีเมล์ยกเลิกมาที่ support@netway.co.th แจ้งความประสงค์ว่าต้องการยกเลิกสัญญา โดยให้ระบุวันที่ที่ต้องการยกเลิกให้ชัดเจน 5. ข้อห้ามและเงื่อนไขในการยกเลิกบริการ การยกเลิกบริการต้องร้องขอบริการผ่าน Email เจ้าของ Client Account ที่สมัครกับ netway.co.th หรือได้รับมอบอำนาจจากผู้มีอำนาจหรือเจ้าของ Client Account เท่านั้น การยกเลิกบริการต้องแจ้งก่อนอย่างน้อย 30 วันทำการ การขอคืนเงินจะคืนตามรอบที่ยังไม่ได้ใช้งาน ยกเว้นค่าติดตั้งและค่าบริการอื่นๆ หลังยกเลิกบริการข้อมูลจะถูกลบอัตโนมัติใน 30 วัน อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ ที่นี่
1. รายละเอียดการ Unsuspend อธิบายขั้นตอนการร้องขอ Unsuspend หรือยกเลิกการระงับการให้บริการ สำหรับบริการ Windows VMware เพื่อให้ระบบสามารถทำงานต่อไปได้ 2. เงื่อนไขการ Unsuspend การ Unsuspend จะดำเนินการเมื่อผู้ใช้บริการปฏิบัติตามเงื่อนไขของผู้ให้บริการเท่านั้น โดยมีเงื่อนไขดังนี้คือ กรณีค้างชำระค่าบริการให้ดำเนินการชำระค่าบริการตามจำนวนที่เรียกเก็บในใบแจ้งหนี้และไม่มียอดค้างชำระคงเหลือในบริการนั้นๆ กรณีผิดเงื่อนไขการให้บริการ ผู้ใช้บริการต้องดำเนินการยกเลิกหรือแก้ไขส่วนของบริการที่ผิดเงื่อนไขและแจ้งต่อผู้ให้บริการตรวจสอบ และผู้ใช้บริการยืนยันว่าปัญหานั้นจะไม่เกิดขึ้นอีก 3. ขั้นตอนปฏิบัติเพื่อแจ้ง Unsuspend โทรเข้ามาที่ศูนย์บริการลูกค้า 02-055-1095 แจ้งปัญหาและรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ กรณีค้างชำระค่าบริการให้ผู้ใช้บริการชำระค่าบริการตามที่กำหนด กรณีผิดเงื่อนไขการให้บริการเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบและแจ้งให้ดำเนินการแก้ไข ในเวลาที่กำหนด เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าผู้ใช้บริการชำระค่าบริการหรือแก้ไขส่วนทีผิดเงื่อนไขแล้ว จึงจะดำเนินการ Unsuspend 4. ข้อห้ามในการใช้บริการ ข้อห้ามและเงื่อนไขการให้บริการ 5. การรับประกัน / คืนเงิน หากพบว่าผู้ใช้บริการทำผิดเงื่อนไขการให้บริการ ทางบริษัทจำเป็นต้องระงับการให้บริการทันที โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และผู้ใช้บริการไม่สามารถถือเป็นเหตุแห่งการขอคืนค่าบริการได้ ผู้ใช้บริการ ตกลงชำระค่าบริการล่วงหน้า ตามแผนการให้บริการที่สั่งซื้อ เป็นเวลาล่วงหน้าก่อนหมดช่วงการใช้งานในแต่ละช่วงเวลา ทั้งนี้ผู้ให้บริการสงวนสิทธิ์ที่จะระงับการให้บริการ หากไม่ได้รับการชำระค่าบริการจากผู้ใช้บริการภายใน 15 วันทำการหลังจากครบกำหนดชำระ และจะทำการลบข้อมูลของผู้ใช้ทั้งหมดภายใน 30 วันทำการ หลังครบกำหนดชำระ