1. ทำการติดตั้ง Root Certificate เข้าสู่ key ring โดยนำ Root CA ที่ได้รับจากฝ่ายขายในขั้นตอนการส่งมอบหรือสามารถดาวน์โหลดได้ที่ https://support.netway.co.th/hc/th/articles/115005099967-ไฟล์-Root-CA และทำการบันทึกเป็นนามสกุล .txt 2. ทำการเปิด Domino Administration client หลังจากนั้นดับเบิ้ลคลิ๊กที่ Server Certificate Administration แล้วเลือก Install Trusted Root Certificate into Key Ring 3. ในช่อง Key Ring File Name ให้ระบุ Key ring Path ที่ได้สร้างไว้ 4. ในส่วน Certificate Information ให้ทำการระบุ Root CA Path ที่ได้สร้างไว้ หรือเลือก Clipboard แล้วนำ Code Root CA ที่ขึ้นต้นด้วย BEGIN CERTIFICATE และลงท้ายด้วย END CERTIFICATE มาวาง 5. ทำการคลิ๊ก Merge Certificate into Key Ring 6. ทำการติดตั้ง Intermediate CA เข้าสู่ key ring โดยนำ Intermediate CA ที่ได้รับจากการส่งมอบ หรือสามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่ DOWNLOAD และทำการบันทึกลงใน Text Editor เป็นนามสกุล .txt 7. วิธีการติดตั้ง Intermediate CA ให้ทำตามข้อ 2-5 ข้างต้น 8. หลังจากติดตั้ง Root Certificate และ Intermediate Certificate เรียบร้อยแล้ว ให้ทำการติดตั้ง SSL Certificate เข้าสู่ key ring โดยให้ไปที่ Server Certificate Administration แล้วเลือก Install Certificate Into Key Ring ดังภาพ 9. ในช่อง Key Ring File Name ให้ระบุ Key ring Path ที่ได้สร้างไว้ 10. ในส่วน Certificate Information ให้ทำการระบุ SSL Certificate Path ที่ได้สร้างไว้ หรือเลือก Clipboard แล้วนำ Code SSL Certificate ที่ขึ้นต้นด้วย BEGIN CERTIFICATE และลงท้ายด้วย END CERTIFICATE มาวาง แล้วทำการคลิ๊ก Merge Certificate into Key Ring เพื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการติดตั้ง 12. หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว ให้ทำการตรวจสอบการติดตั้ง SSL Certificate โดยผ่านทางเว็บไซต์ https://ssl.in.th/ssl-checker/ หมายเหตุ เมื่อทำการติดตั้ง SSL Certificate เรียบร้อยแล้ว ทางเราแนะนำให้ทางลูกค้าตั้งค่าบังคับใช้งาน HTTPS ซึ่งหมายถึงทุกครั้งที่มีการเรียกใช้งานเว็บไซต์ของคุณ จะถูก Redirect เพื่อใช้งานบน HTTPS โดยวิธีการตั้งค่าทางเราแนะนำให้ติดต่อผู้ดูแล Server ของท่าน __________________________________________________________________________________________________ Netway Communication ผู้ให้บริการ SSL อันดับหนึ่งของประเทศไทย เป็นตัวแทนแบรนด์ไอทีชั้นนำมากมาย คุ้มกว่าซื้อตรงกับราคาขายของเจ้าของแบรนด์ และไม่เสียภาษีนำเข้า พร้อมบริการตลอด 24 ชม. ออกบิล VAT ได้ ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ Line : @netway (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://bit.ly/line-netwayFacebook : m.me/netway.offcialTel : 02-055-1095Email : support@netway.co.thWeb Chat : [[URL]]/ #ให้เราช่วยคุณเรื่องไอที #การสื่อสาร Netway #มีครบจบที่เดียว #SSL
ก่อนดำเนินการ 1. ตรวจสอบว่าเครื่องที่จะติดตั้งเปิดใช้งาน mod_ssl แล้วหรือไม่ หากยังให้รันคำสั่งต่อไปนี้ yum install mod_ssl ****เมื่อรันคำสั่งนี้ จะมีไฟล์สำหรับ Config SSL certificate ขึ้นมา Path default คือ /etc/httpd/conf.d/ssl.conf หรือ httpd-ssl.confข้อควรทราบ การติดตั้งสำหรับ Apache จะแบ่งเป็น 2 วิธี ตาม Apache version ที่ท่านใช้งานอยู่ โดย1. เป็นวิธีการติดตั้งสำหรับ Apache version เทียบเท่าหรือสูงกว่า 2.4.8 ขึ้นไป2. เป็นวิธีการติดตั้งสำหรับ Apache version ที่ต่ำกว่า 2.4.8 สำหรับ Apache version เทียบเท่าหรือสูงกว่า 2.4.8 1. ทำการสร้างไฟล์ certificate.crt สำหรับเก็บ SSL certificate Code โดยพิมพ์คำสั่ง ด้านล่างนี้ และนำ Code SSL certificate ที่ได้รับใส่ลงไปหากได้รับเป็นไฟล์ มักจะมีชื่อ Domain ลูกค้าอยู่ในไฟล์ เช่น ssl_in_th.crt สามารถใช้ไฟล์ดังกล่าวติดตั้งได้เลย หรือเปลี่ยนชื่อเป็น certificate.crt ก็ได้เช่นกัน nano -w certificate.crtตัวอย่างnano -w /etc/httpd/ssl/certificate.crtคำสั่ง nano จะใช้คีย์ลัด "Ctrl+O" เพื่อ Save และคำสั่ง "Ctrl+X" เพื่อออก ข้อควรระวัง เมื่อวาง Code Certificate แล้วให้ตรวจสอบก่อนว่า หน้าบรรทัด หรือ ท้ายบรรทัดมีช่องว่างหรือไม่ หากมีช่องว่างด้านท้ายบรรทัด ให้ลบช่องว่างนั้นเพื่อให้เคอเซอร์ติดตัวอักษรสุดท้ายของแต่ละบรรทัด หากมีช่องว่างด้านหน้าบรรทัดให้ลบช่องว่างดังกล่าว เพื่อให้ตัวอักษรแรกติดขอบซ้ายของบรรทัด 2. ทำการสร้างไฟล์ intermediate.crt สำหรับเก็บ Intermediate CA code โดยพิมพ์คำสั่งด้านล่างนี้ และนำ Code Intermediate CA ที่ได้รับวางใส่ไฟล์ดังกล่าว nano -w intermediate.crtตัวอย่างnano -w /etc/httpd/ssl/intermediate.crt หมายเหตุ Intermediate CA code หากสั่งซื้อกับเรา SSL.in.th จะได้รับเป็นไฟล์ ซึ่งมักจะมีชื่อ CA ลูกค้าอยู่ในไฟล์ เช่น DigicertCA.crt สามารถใช้ไฟล์ดังกล่าวติดตั้งได้เลย หรือเปลี่ยนชื่อเป็น intermediate.crt ก็ได้เช่นกัน หากท่านสั่งซื้อแบรนด์ที่มี Intermediate CA 2 code สามารถวางต่อกันได้เลยในรูปแบบตามตัวอย่าง -----BEGIN CERTIFICATE-----Intermediate CA code #1-----END CERTIFICATE----------BEGIN CERTIFICATE-----Intermediate CA code #2-----END CERTIFICATE----- 3. ทำการรวมไฟล์ certificate.crt และ intermediate.crt ด้วยคำสั่งด้านล่างนี้ cat certificate.crt intermediate.crt > certificate_all.crt 4. ค้นหาการที่ตั้งของไฟล์สำหรับการตั้งค่า SSL certificate ใน Apache ด้วยคำสั่ง grep -i -r "SSLCertificateFile" /etc/httpd/เมื่อค้นหาด้วยคำสั่งดังกล่าวแล้ว จะทราบถึงไฟล์ที่เข้าไปตั้งค่า ให้เข้าที่ไฟล์ดังกล่าวตาม Directory ที่ได้ค้นหาไว้ 5. ไปที่ VirtualHost ที่ต้องการตั้งค่า (โดยปกติหากมีแค่ Website เดียวจะมีเพียงไฟล์เดียวที่ใช้ในการ Config และมีเพียงแค่ VirtualHost เดียว) หาค่าต่อไปนี้ และวาง Path ของไฟล์ certificate_all.crt ในข้อที่ 3 SSLCertificateFile //certificate_all.crt (ไฟล์นี้ได้รับในขั้นตอนที่ 3)SSLCertificateKeyFile //privatekey.key (ไฟล์นี้จะได้รับตอนที่ทำการ Generate CSR)ตัวอย่างSSLCertificateFile /etc/httpd/ssl/certificate_all.crtSSLCertificateKeyFile /etc/httpd/ssl/privatekey.key 6. เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วให้ ให้ทดสอบการตั้งค่าก่อน Restart service ด้วยคำสั่ง apachectl configtest 7. เมื่อตรวจสอบแล้วไม่ผิดปกติใดๆ ทำการ Restart Apache apachectl stopapachectl start สำหรับ Apache version ต่ำกว่า 2.4.8 1. ทำการสร้างไฟล์ certificate.crt สำหรับเก็บ SSL certificate Code โดยพิมพ์คำสั่ง ด้านล่างนี้ และนำ Code SSL certificate ที่ได้รับใส่ลงไปหากได้รับเป็นไฟล์ มักจะมีชื่อ Domain ลูกค้าอยู่ในไฟล์ เช่น ssl_in_th.crt สามารถใช้ไฟล์ดังกล่าวติดตั้งได้เลย หรือเปลี่ยนชื่อเป็น certificate.crt ก็ได้เช่นกัน nano -w certificate.crtตัวอย่างnano -w /etc/httpd/ssl/certificate.crtคำสั่ง nano จะใช้คีย์ลัด "Ctrl+O" เพื่อ Save และคำสั่ง "Ctrl+X" เพื่อออก ข้อควรระวัง เมื่อวาง Code Certificate แล้วให้ตรวจสอบก่อนว่า หน้าบรรทัด หรือ ท้ายบรรทัดมีช่องว่างหรือไม่ หากมีช่องว่างด้านท้ายบรรทัด ให้ลบช่องว่างนั้นเพื่อให้เคอเซอร์ติดตัวอักษรสุดท้ายของแต่ละบรรทัด หากมีช่องว่างด้านหน้าบรรทัดให้ลบช่องว่างดังกล่าว เพื่อให้ตัวอักษรแรกติดขอบซ้ายของบรรทัด 2. ทำการสร้างไฟล์ intermediate.crt สำหรับเก็บ Intermediate CA code โดยพิมพ์คำสั่งด้านล่างนี้ และนำ Code Intermediate CA ที่ได้รับวางใส่ไฟล์ดังกล่าว nano -w intermediate.crtตัวอย่างnano -w /etc/httpd/ssl/intermediate.crt หมายเหตุ Intermediate CA code หากสั่งซื้อกับเรา SSL.in.th จะได้รับเป็นไฟล์ ซึ่งมักจะมีชื่อ CA ลูกค้าอยู่ในไฟล์ เช่น DigicertCA.crt สามารถใช้ไฟล์ดังกล่าวติดตั้งได้เลย หรือเปลี่ยนชื่อเป็น intermediate.crt ก็ได้เช่นกัน หากท่านสั่งซื้อแบรนด์ที่มี Intermediate CA 2 code สามารถวางต่อกันได้เลยในรูปแบบตามตัวอย่าง -----BEGIN CERTIFICATE-----Intermediate CA code #1-----END CERTIFICATE----------BEGIN CERTIFICATE-----Intermediate CA code #2-----END CERTIFICATE----- 3. ค้นหาการตั้งค่า SSL certificate ใน Apache ด้วยคำสั่ง grep -i -r "SSLCertificateFile" /etc/httpd/เมื่อค้นหาด้วยคำสั่งดังกล่าวแล้ว จะทราบถึงไฟล์ที่เข้าไปตั้งค่า ให้เข้าที่ไฟล์ดังกล่าวตาม Directory ที่ได้ค้นหาไว้ ตัวอย่าง ไฟล์ที่ต้องการ Config คือไฟล์ ssl.conf ตามภาพ 4. ทำการแก้ไขที่อยู่ (Path) ของ SSLCertificateFile , SSLCertificateKeyFile , SSLCertificateChainFile ให้ถูกต้อง SSLCertificateFile //certificate.crt (ไฟล์นี้ได้รับในขั้นตอนที่ 1)SSLCertificateKeyFile //privatekey.key (ไฟล์นี้จะได้รับตอนที่ทำการ Generate CSR)SSLCertificateChainFile //intermediate.crt (ไฟล์นี้ได้รับในขั้นตอนที่ 2)ตัวอย่างSSLCertificateFile /etc/httpd/ssl/certificate.crtSSLCertificateKeyFile /etc/httpd/ssl/privatekey.keySSLCertificateChainFile /etc/httpd/ssl/intermediate.crt 5. ทำการตรวจสอบ Configuration ที่ได้ทำไปด้วยคำสั่ง apachectl configtest 6. หากไม่มีสิ่งใดผิดปกติ ให้ Restart Apache และทดสอบใช้งาน apachectl stopapachectl start หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว สามารถตรวจสอบการติดตั้ง SSL Certificate โดยผ่านทางเว็บไซต์ https://ssl.in.th/ssl-checker/ หมายเหตุ เมื่อทำการติดตั้ง SSL Certificate เรียบร้อยแล้ว ทางเราแนะนำให้ทางลูกค้าตั้งค่าบังคับใช้งาน HTTPS ซึ่งหมายถึงทุกครั้งที่มีการเรียกใช้งานเว็บไซต์ของคุณ จะถูก Redirect เพื่อใช้งานบน HTTPS โดยวิธีการตั้งค่าทางเราแนะนำให้ติดต่อผู้ดูแล Server ของท่าน __________________________________________________________________________________________________ Netway Communication ผู้ให้บริการ SSL อันดับหนึ่งของประเทศไทย เป็นตัวแทนแบรนด์ไอทีชั้นนำมากมาย คุ้มกว่าซื้อตรงกับราคาขายของเจ้าของแบรนด์ และไม่เสียภาษีนำเข้า พร้อมบริการตลอด 24 ชม. ออกบิล VAT ได้ ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ Line : @netway (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://bit.ly/line-netwayFacebook : m.me/netway.offcialTel : 02-055-1095Email : support@netway.co.thWeb Chat : [[URL]]/ #ให้เราช่วยคุณเรื่องไอที #การสื่อสาร Netway #มีครบจบที่เดียว #SSL
สำหรับ Xampp เป็น Web Service ที่ส่วนมากใช้บน Windows Server โดยจะเป็นการติดตั้งในส่วนของ Xampp โดยตรง ไม่เกี่ยวข้องกับ Service ของ Windows ใดๆ ดังนั้น ส่วนนี้จะเป็นการติดตั้งคล้ายกับ Apache บน Linux Serverเตรียมก่อนการติดตั้ง1. ไฟล์ Private Key ที่ได้รับในขั้นตอนการ Generate CSR (หากเป็นการติดตั้งเครื่องที่ 2 แนะนำให้ดูวิธีการ Export & Import เพิ่มเติม)2. ไฟล์ SSL certificate และ Intermediate CA ที่ได้รับในขั้นตอนการส่งมอบหลังจากการสั่งซื้อสำเร็จวิธีการ1. นำ Private Key ที่ได้จากขั้นตอนสร้าง CSR และนำ SSL/TLS Certificate รวมถึง Intermediate CA ที่ทางเน็ตเวย์ส่งให้ในขั้นตอนการส่งมอบ นำไปวางไว้ที่ Folder ใดก็ได้ตามต้องการ บนเครื่อง Server 2. เริ่มต้นเมื่อเปิดโปรแกรม XAMPP ขึ้นมาแล้วให้ไปที่ปุ่ม Config แล้วเลือกเมนู Apache (httpd-ssl.conf) เพื่อจะทำการติดตั้ง SSL ลงบน XAMPP หากเป็นไปได้ แนะนำให้หา Folder ของไฟล์ Configuration ดังกล่าว เพื่อคัดลอกไฟล์เดิมเป็นไฟล์สำรองก่อนที่จะตั้งค่าต่อไป 3. เมื่อเข้ามาสู่ไฟล์ Configuration (httpd-ssl.conf) แล้วนั้นให้ตรวจเช็ดดูว่า VirtualHost _default_:433 นั้นเป็น port 443 หรือไม่ถ้าไม่ได้เป็น 443 ให้ทำการเปลี่ยนให้เรียบร้อย แล้วตรวจสอบความเรียบร้อยด้วยว่า “SSLEngine on” ต้องเป็น on เท่านั้น 4. เรียกใช้งาน SSL certificate ที่บรรทัด SSLCertificateFile ให้ทำการระบุ Path ที่อยู่ของไฟล์ SSL/TLS Certificate ที่ได้จัดเก็บไว้ในข้อที่ 1 (จากตัวอย่างในรูปนั้นไฟล์ได้อยู่ที่หน้า Desktop ในโฟลเดอร์ cloud.netway.co.th แล้วตามด้วยชื่อไฟล์) 5. เรียกใช้งาน Private Key ที่บรรทัด SSLCertificateKeyFile ให้ทำการระบุ Path ที่อยู่ของไฟล์ Privatekey โดยตัวอย่างใช้เป็นไฟล์ privatekey.key ที่ได้จัดเก็บไว้ในข้อที่ 1 (ซึ่งตัวอย่างคือนำไฟล์ key มาไว้ที่ Desktop แล้วนั้นจึงทำการระบุที่อยู่ไฟล์ลงไปดังรูปตัวอย่าง) 6. ขั้นตอนสุดท้าย เรียกใช้งาน Intermediate CA ที่บรรทัด SSLCertificateChainFile โดยทำการระบุ Path ที่อยู่ของไฟล์ IntermediateCA.crt ที่ได้จัดเก็บไว้ในข้อที่ 1 (ตัวอย่างคือนำไฟล์ IntermediateCA.crt มาไว้ที่ Desktop แล้วนั้นจึงทำการระบุที่อยู่ไฟล์ลงไปดังรูปตัวอย่าง) 7. ให้ทำการ Restart service 1 ครั้ง 8. หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว ให้ทำการตรวจสอบการติดตั้ง SSL Certificate โดยผ่านทางเว็บไซต์ https://ssl.in.th/ssl-checker/ หมายเหตุ เมื่อทำการติดตั้ง SSL Certificate เรียบร้อยแล้ว ทางเราแนะนำให้ทางลูกค้าตั้งค่าบังคับใช้งาน HTTPS ซึ่งหมายถึงทุกครั้งที่มีการเรียกใช้งานเว็บไซต์ของคุณ จะถูก Redirect เพื่อใช้งานบน HTTPS โดยวิธีการตั้งค่าทางเราแนะนำให้ติดต่อผู้ดูแล Server ของท่าน __________________________________________________________________________________________________ Netway Communication ผู้ให้บริการ SSL อันดับหนึ่งของประเทศไทย เป็นตัวแทนแบรนด์ไอทีชั้นนำมากมาย คุ้มกว่าซื้อตรงกับราคาขายของเจ้าของแบรนด์ และไม่เสียภาษีนำเข้า พร้อมบริการตลอด 24 ชม. ออกบิล VAT ได้ ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ Line : @netway (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://bit.ly/line-netwayFacebook : m.me/netway.offcialTel : 02-055-1095Email : support@netway.co.thWeb Chat : [[URL]]/ #ให้เราช่วยคุณเรื่องไอที #การสื่อสาร Netway #มีครบจบที่เดียว #SSL
ข้อควรทราบโดยปกติ Root CA ไม่จำเป็นต้องติดตั้งบน Windows เนื่องจากเมื่อมีการเรียกใช้งานเว็บไซต์ใดๆ ที่ไม่เคยรู้จัก Root CA นั้นๆ ระบบจะดาวน์โหลด Root CA และติดตั้งให้อัตโนมัติส่วนมากแล้ว กรณีที่จะต้องติดตั้งด้วยตนเอง มักเกิดจาก Windows เครื่องนั้นๆ ไม่สามารถ Update Windows ได้แล้ว หรือไม่สามารถทำได้ตามปกติ จนไม่สามารถติดตั้ง Root CA เองได้ หรือเครื่องใช้งานที่ไม่สามารถออก Internet ได้วิธีการ1. ทำการบันทึก Root Certificate โดยนำ Root CA ที่ได้รับจากทีมงาน SSL.in.th หรือสามารถดาวน์โหลดได้ที่ https://support.netway.co.th/hc/th/articles/115005099967-Root-CA และทำการบันทึกเป็นนามสกุล .cer 2. เปิด MMC Console โดยเปิด Run > mmc 3. ไปที่ File > Add / Remove Snap-in... 4. เลือก Certificate และกด Add >> เลือก Computer Account > Local Computer หลังจากนั้นกด Finish และกด OK 5. เลือกหัวข้อ Trusted Root Certification Authority คลิกขวาที่ Folder Certificate เลือก All Task > Import 6. เลือก Next >> เลือกไฟล์ Root CA ที่ได้ทำการ Save ไว้ และกด Next >> เลือก “Place all certificate in the following store” จากนั้นกด Next และ Finish 9. จะขึ้นข้อความว่า Import Successful หลังจากนั้นทดลองเรียกใช้งานเว็บไซต์ หรือระบบอีกครั้งหนึ่ง หากยังไม่สามารถใช้งานได้ แนะนำให้ Restart เครื่อง 1 รอบ หลังจากนั้นลองเรียกใช้ Website ที่ติดตั้งไปอีกครั้งหนึ่ง __________________________________________________________________________________________________ Netway Communication ผู้ให้บริการ SSL อันดับหนึ่งของประเทศไทย เป็นตัวแทนแบรนด์ไอทีชั้นนำมากมาย คุ้มกว่าซื้อตรงกับราคาขายของเจ้าของแบรนด์ และไม่เสียภาษีนำเข้า พร้อมบริการตลอด 24 ชม. ออกบิล VAT ได้ ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ Line : @netway (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://bit.ly/line-netwayFacebook : m.me/netway.offcialTel : 02-055-1095Email : support@netway.co.thWeb Chat : [[URL]]/ #ให้เราช่วยคุณเรื่องไอที #การสื่อสาร Netway #มีครบจบที่เดียว #SSL
เตรียมก่อนติดตั้งการ Import บน Windows Server ต้องมีไฟล์ Import ที่เป็นนามสกุล .pfx เสียก่อน โดย กรณีเครื่องหลักที่ใช้ติดตั้ง SSL เป็น Windows Server สามารถดูวิธีการ Export ได้ที่ วิธีการ Export SSL Certificate และ Privatekey บน Windows Server 2008 ขึ้นไป กรณีเครื่องหลักเป็น Platform อื่น จะต้องนำ Private Key และ SSL Certificate มาทำการแปลงเป็นไฟล์ให้เป็นนามสกุล .pfx เสียก่อน โดยสามารถดูวิธีการแปลงไฟล์ได้ที่ การแปลงไฟล์จาก PEM Format ไป PFX/PKCS#12 วิธีการ 1. เข้าสู่ Microsoft Management Console (MMC) โดยไปที่ run >> mmc 2. เลือกที่เมนู File >> Add/Remove Snap-in >> เลือก Certificates และกด Add 3. เลือก Computer Account >> Next >> Local Computer >> Finish 4. จากนั้น ไปที่หน้าหลักของ Microsoft Management Console (MMC) แล้วไปที่ Certificates (Local Computer) >> Personal >> Certificates ดังรูป 5. คลิกขวาที่โฟลเดอร์ Certificates ที่อยู่ภายใต้ Personal เลือก All task >> Import จากนั้น เลือกไฟล์ .pfx จาก ที่เตรียมไว้ แล้วกด Next 6. ทำการใส่รหัสผ่านที่กำหนดไว้ตอนสร้างไฟล์ .pfx หากต้องการให้เครื่อง Server สามารถทำการ Export Private key เพื่อไปติดตั้งเครื่องอื่นได้อีก ให้เลือกตัวเลือก "Mark this key as exportable" 7. เลือก “Automatically select the certificate store based on the type of certificate” จากนั้นกด Next เมื่อถึงหน้า Completing the Certificate Import Wizard กด Finish 8. ขั้นตอนต่อมา ทำการติดตั้ง Intermediate CA โดยไปที่ MMC Console > Certificates (Local Computer) ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ 9. ที่หน้าหลัก ให้คลิกที่ Certificates (Local Computer) >> เลือก “Intermediate Certification Authorities >> Certificate” จากนั้นคลิกขวา All Tasks >> Import 10. เมื่อเข้าสู่หน้าแรกในการ Import กด Next จากนั้นเลือกที่ตั้งไฟล์ Intermediate CA 11. เลือก “Place all certificates in the following store” จากนั้นกด Next 12. เมื่อทำตามขั้นตอนทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว หาก Import สำเร็จ จะขึ้นข้อความแจ้งเตือนว่า “The import was successful” 13. เข้าสู่ IIS Manager ทำการเลือกเว็บไซต์ที่ต้องการติดตั้ง SSL ให้ถูกต้อง หลังจากนั้น ให้ทำการคลิ๊ก Binding ที่อยู่ทางด้านขวามือ จะพบหน้าต่าง Site Binding ขึ้นมา 14. คลิกปุ่ม Add แล้วระบุข้อมูลต่างๆดังนี้ Type: ให้ทำการเลือก httpsIP address: ทำการเลือก All Unassigned หรือเลือก IP เว็บไซต์ให้ถูกต้องPort: ให้กำหนดเป็น Port 443SSL Certificate: ให้ทำการเลือกไฟล์ certificate ที่ได้ติดตั้งไว้ 15. หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว ให้ทำการตรวจสอบการติดตั้ง SSL Certificate โดยผ่านทางเว็บไซต์ https://ssl.in.th/ssl-checker/ หากเรียกใช้เว็บไซต์ แล้วยังไม่สามารถใช้งานได้ แนะนำให้ Restart Server เพื่อการเรียกใช้ไฟล์ใน Certificate store ได้อย่างครบถ้วนและถูกต้อง หมายเหตุ เมื่อทำการติดตั้ง SSL Certificate เรียบร้อยแล้ว ทางเราแนะนำให้ทางลูกค้าตั้งค่าบังคับใช้งาน HTTPS ซึ่งหมายถึงทุกครั้งที่มีการเรียกใช้งานเว็บไซต์ของคุณ จะถูก Redirect เพื่อใช้งานบน HTTPS โดยวิธีการตั้งค่าทางเราแนะนำให้ติดต่อผู้ดูแล Server ของท่าน __________________________________________________________________________________________________ Netway Communication ผู้ให้บริการ SSL อันดับหนึ่งของประเทศไทย เป็นตัวแทนแบรนด์ไอทีชั้นนำมากมาย คุ้มกว่าซื้อตรงกับราคาขายของเจ้าของแบรนด์ และไม่เสียภาษีนำเข้า พร้อมบริการตลอด 24 ชม. ออกบิล VAT ได้ ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ Line : @netway (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://bit.ly/line-netwayFacebook : m.me/netway.offcialTel : 02-055-1095Email : support@netway.co.thWeb Chat : [[URL]]/ #ให้เราช่วยคุณเรื่องไอที #การสื่อสาร Netway #มีครบจบที่เดียว #SSL