ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ทุกคนต่างอยากทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ไม่ใช่ทำงานหนักขึ้น การเข้ามามีส่วนร่วมของเครื่องมือ AI จะช่วยตอบโจทย์มากขึ้น เครื่องมือเหล่านี้สามารถทำให้การทำงานของคุณง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้น มาสำรวจเครื่องมือ AI บางส่วนที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในสำนักงานยุคปัจจุบัน AI Tools คืออะไร? AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence โดยเครื่องมือ AI คือโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่แม่นยำ เมื่อเวลาผ่านไป เครื่องมือเหล่านี้จะสามารถเรียนรู้จากข้อมูลที่ได้รับจากพฤติกรรมมนุษย์ เครื่องมือเหล่านี้เปรียบเสมือนผู้ช่วยอัจฉริยะที่ช่วยให้ทำงานต่างๆ สำเร็จลุล่วงได้เร็วขึ้น และหลายเครื่องมือสามารถประยุกต์ใช้กับซอฟต์แวร์อื่นๆ ได้ดี ทำให้สะดวกขึ้น โดยประเภทของเครื่องมือ AI ที่เลือกจะขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ เครื่องมือ AI ช่วยจัดการเวลาได้อย่างไร การจัดการเวลาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประสิทธิภาพการทำงาน เครื่องมือ AI ช่วยให้จัดการวันเวลาได้ดีขึ้น เช่น สามารถกำหนดเวลาการประชุม แจ้งเตือนเกี่ยวกับกิจกรรมเหตุการณ์ต่างๆ และแม้แต่แนะนำเวลาที่ดีที่สุดในการทำงาน เช่น ปฏิทิน ปฏิทินใช้ AI เพื่อจัดการตารางเวลา ปฏิทินสามารถกำหนดเวลาประชุมที่ดีที่สุดได้ตามความพร้อมของทุกคน นอกจากนี้ ปฏิทินยังสามารถส่งคำแจ้งเตือนเพื่อให้ไม่ลืมงานสำคัญได้อีกด้วย เครื่องมือจัดการงาน ตัวจัดการงานช่วยให้ทราบว่าต้องทำอะไร ตัวจัดการงานที่ใช้ AI สามารถจัดลำดับงานตามกำหนดเวลาหรือความเร่งด่วนได้ วิธีนี้จะช่วยให้คุณมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่สำคัญจริงๆ AI ช่วยปรับปรุงการสื่อสารได้ การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญในสำนักงาน เครื่องมือ AI ช่วยให้การสื่อสารรวดเร็วและชัดเจนยิ่งขึ้น เครื่องมือเหล่านี้สามารถช่วยในเรื่องอีเมล การประชุม แชท และแม้แต่การแปลภาษา เช่น อีเมล ผู้ช่วยด้านอีเมลใช้ AI เพื่อจัดเรียงกล่องจดหมายของคุณ พวกเขาสามารถกรองอีเมลสำคัญและร่างคำตอบให้คุณได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาได้อีกด้วย การประชุมเสมือนจริง ผู้ช่วยการประชุมเสมือนจริงใช้ AI เพื่อถอดเสียงการประชุมแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังสามารถเน้นประเด็นสำคัญๆและรายการที่ต้องดำเนินการได้ ทำให้ตรวจสอบสิ่งที่ประชุมกันในภายหลังได้ง่ายขึ้น เครื่องมือ AI ช่วยปรับปรุงการวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างไร การวิเคราะห์ข้อมูลถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของการตัดสินใจอย่างดี เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้ในเวลาอันสั้นที่สุด เครื่องมือเหล่านี้้แสดงข้อมูลเชิงลึกจึงช่วยให้ตัดสินใจได้ีแม่นยำขึ้น เช่น เครื่องมือสร้างภาพข้อมูล เครื่องมือสร้างภาพข้อมูลสร้างแผนภูมิและกราฟง่ายๆ ที่เข้าใจง่าย AI ช่วยให้ระบุแนวโน้มและรูปแบบในข้อมูลได้ การวิเคราะห์คาดการณ์ การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อคาดการณ์อนาคตด้วยความช่วยเหลือของข้อมูลที่เกี่ยวข้องตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ช่วยให้วางแผนธุรกิจได้ดีขึ้นและก้าวไปข้างหน้าเหนือคู่แข่ง AI ช่วยในการทำงานสร้างสรรค์ ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลขและตารางเวลาเท่านั้น AI ยังมีประโยชน์ในงานสร้างสรรค์ เช่น การเขียน การออกแบบ และการคิดไอเดียใหม่ๆ อีกด้วย เช่น ช่วยเรื่องการเขียน ช่วยด้านการเขียนสามารถช่วยตรวจสอบไวยากรณ์และแนวคิดสำหรับเนื้อหาได้ เครื่องมือออกแบบ เครื่องมือออกแบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะสร้างภาพที่สวยงามได้ในพริบตา เครื่องมือเหล่านี้มีเทมเพลตและคำแนะนำด้านการออกแบบตามเทรนด์ปัจจุบัน เครื่องมือ AI สำหรับการบริการลูกค้า การบริการลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจ เครื่องมือ AI ช่วยปรับปรุงวิธีการโต้ตอบกับลูกค้าได้ โดยให้คำตอบและวิธีแก้ปัญหาที่รวดเร็วสำหรับคำถามต่างๆ เช่น แชทบอท Chatbots คือโปรแกรม AI ที่สนทนากับลูกค้าทางออนไลน์ โดยจะตอบคำถามทันทีและพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน เครื่องมือวิเคราะห์ความรู้สึกอารมณ์ เครื่องมือวิเคราะห์ความรู้สึกใช้ AI เพื่อทำความเข้าใจความรู้สึกอารมณ์ของลูกค้าจากข้อความที่พิมพ์ หรือรีวิว ซึ่งช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงได้อย่างเหมาะสมและปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานของเราในแต่ละวัน ผลลัพธ์ที่ได้คือการทำงานที่ง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น พร้อมที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในธุรกิจต่อไป Netway Communication ให้บริการด้าน Cloud, Hosting และ IT พื้นฐานสำหรับธุรกิจ เป็นตัวแทนแบรนด์ไอทีชั้นนำมากมาย ทั้ง Microsoft, Google, Digicert, ฯลฯ เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลคุณ 24 ชม. ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ Line : @netway (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://bit.ly/line-netwayFacebook : m.me/netway.offcialTel : 02-055-1095Email : support@netway.co.thWeb Chat : [[URL]]/ อ้างอิง: thetechnologypress
แนวทางปฏิบัติการสำรองข้อมูลอย่างปลอดภัย ทุกวันนี้ ข้อมูลส่วนใหญ่จัดเก็บในรูปแบบดิจิทัล บางธรุกิจมีการจัดการกับข้อมูลทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นประวัติส่วนตัวหรือไฟล์งาน ข้อมูลลูกค้า จึงจำเป็นต้องมีการสำรองข้อมูลอย่างปลอดภัยเพื่อสามารถดึงมาใช้ในยามที่เครื่องเกิดเหตุการณ์บางอย่าง Data Backup คืออะไร คือ การสำรองข้อมูลโดยการสร้างสำเนาข้อมูล ซึ่งสำเนาดังกล่าวสามารถใช้ได้ในกรณีที่ข้อมูลต้นฉบับสูญหายหรือถูกทำลาย ซึ่งข้อมูลสำรองสามารถจัดเก็บในอุปกรณ์ต่างๆ ได้ เช่น ฮาร์ดไดรฟ์ภายนอก หรือในระบบคลาวด์ การมีข้อมูลสำรองจะช่วยให้องค์กรไม่สูญเสียข้อมูลสำคัญไป ความสำคัญของการสำรองข้อมูล การสำรองข้อมูลจะช่วยป้องกันไม่ให้ข้อมูลสูญหายไปถาวร อย่างน้อยก็มี Backup อยู่บ้าง บางครั้งคอมพิวเตอร์ขัดข้องหรือมีไวรัสหรืออาจลบไฟล์สำคัญบางไฟล์โดยไม่ได้ตั้งใจ หากไม่มีการสำรองข้อมูล ก็อาจสูญเสียทุกอย่าง การสำรองข้อมูลจะช่วยปกป้องข้อมูลจากปัญหาเหล่านี้ ความถี่ในการสำรองข้อมูล การสำรองข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญมากและควรทำเป็นประจำ บางคนสำรองข้อมูลทุกวัน ในขณะที่บางคนทำเป็นประจำทุกสัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยเพียงใด หากมีไฟล์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงทุกวัน ก็ควรสำรองข้อมูลทุกวัน การสำรองข้อมูลเป็นประจำข้อดีคือเราจะมีไฟล์เวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ การสำรองข้อมูลมีประเภทใดบ้าง โดยพื้นฐานทั่วไปมี 3 รูปแบบ การสำรองข้อมูลแบบ Full Backup การสำรองข้อมูลแบบนี้จะคัดลอกข้อมูลทั้งหมด ซึ่งอาจต้องใช้เวลาและพื้นที่มากขึ้นแต่ก็ครอบคลุมข้อมูลครบทั้งหมด การสำรองข้อมูล Incremental Backup การสำรองข้อมูลแบบนี้จะคัดลอกเฉพาะไฟล์ใหม่หรือไฟล์ที่มีการเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่การสำรองข้อมูลครั้งล่าสุดเท่านั้น ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและพื้นที่ การสำรองข้อมูลแบบ Differential Backup การสำรองข้อมูลแบบ differential backup จะคัดลอกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการสำรองข้อมูลแบบ full backup ครั้งล่าสุด ซึ่งเร็วกว่าการสำรองข้อมูลแบบ full backup แต่ใช้พื้นที่มากกว่าการสำรองข้อมูลแบบ Incremental Backup ควรเก็บข้อมูลสำรองไว้ที่ไหน สถานที่จัดเก็บข้อมูลสำรองก็เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เช่น: ฮาร์ดไดรฟ์ภายนอก (External Hard Drives) เป็นอุปกรณ์ที่สามารถเก็บไว้ที่บ้านหรือที่ทำงานได้ มีความสะดวก แต่ก็อาจสูญหายหรือเสียหายได้เช่นกัน การเก็บข้อมูลบนคลาวด์ (Cloud Storage) สำรองข้อมูลบนระบบออนไลน์ มีความปลอดภัยค่อนข้างมาก และยังทำงานได้สะดวกเข้าถึงได้ง่ายจากทุกสถานที่อีกด้วย การจัดเก็บข้อมูลนอกสถานที่ (Offsite Storage) หมายถึงการเก็บข้อมูลสำรองไว้ในตำแหน่งอื่นที่ไม่ใช่ข้อมูลหลัก ซึ่งจะช่วยป้องกันข้อมูลถูกโจรกรรมหรือภัยธรรมชาติ วิธีสำรองข้อมูลอย่างปลอดภัย การใช้การเข้ารหัส (Use Encryption) ตั้งรหัสผ่านที่ซับซ้อน (Set Strong Passwords) ทดสอบการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ (Regularly Test Your Backups) เครื่องมือใดบ้างที่สามารถช่วยสำรองข้อมูล มีเครื่องมือต่างๆ มากมายสามารถช่วยจัดการสำรองข้อมูลโดยอัตโนมัติ: ซอฟต์แวร์สำรองข้อมูล (Backup Software) ซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลสามารถกำหนดเวลาและดำเนินการสำรองข้อมูลโดยอัตโนมัติได้ ทำให้การสำรองข้อมูลรายวัน รายสัปดาห์ จึงทำได้ง่ายยิ่งขึ้น บริการคลาวด์ (Cloud Services) บริการคลาวด์หลายแห่งมีแพ็คเกจในการสำรองข้อมูลอัตโนมัติและยังมีคุณลักษณะด้านความปลอดภัย ข้อควรพึงกระทำในการสำรองข้อมูล ข้อควรพึงกระทำ ควรเก็บสำเนาสำรองไว้มากกว่าหนึ่งชุดในหลายๆ สถานที่เสมอ อัปเดตซอฟต์แวร์และอุปกรณ์สำรองข้อมูลทั้งหมดเพื่อป้องกันภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ๆ Netway Communication ให้บริการด้าน Cloud, Hosting และ IT พื้นฐานสำหรับธุรกิจ เป็นตัวแทนแบรนด์ไอทีชั้นนำมากมาย ทั้ง Microsoft, Google, Digicert, ฯลฯ เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลคุณ 24 ชม. ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ Line : @netway (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://bit.ly/line-netwayFacebook : m.me/netway.offcialTel : 02-055-1095Email : support@netway.co.thWeb Chat : [[URL]]/ อ้างอิง: thetechnologypress
Netway Combo - January 2025 อัพเดตข่าวสารจากเน็ตเวย์และบทความน่ารู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี
Easy E-Receipt 2.0 มาตรการลดหย่อนภาษีปี 2568 รัฐบาลออกมาตรการ Easy e-Receipt 2.0 เพื่อสนับสนุนการบริโภคและส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่น โดยผู้มีรายได้และเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าสินค้าและบริการไปลดหย่อนภาษีในปี 2568 สูงสุดได้ 50,000 โดยแบ่งเป็น 1. ลดหย่อนภาษี 30,000 จากการซื้อสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการที่มีสัญลักษณ์ 2. ลดหย่อนภาษี 20,000 บาทจากสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) / สินค้าหรือบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจชุมชน หรือ วิสาหกิจเพื่อสังคม เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ใช้จ่ายทุกครั้งอย่าลืมขอ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เพียงแจ้งข้อมูลให้แก่ผู้ขายดังนี้ 1. ชื่อ-นามสกุล 2. ที่อยู่ 3. เลขประจำตัวบัตรประชาชน ผู้ได้สิทธิหักลดหย่อนตามมาตรการ "Easy E-Receipt 2.0" คือผู้ใด? ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเท่านั้น แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล การใช้ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt ลดหย่อนอะไร อย่างไรบ้าง? ค่าซ่อมรถสามารถหักลดหย่อนได้หรือไม่? ได้ หากซ่อมและจ่ายค่าซ่อมระหว่างวันที่ 16 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 และได้รับ e-Tax Invoice ค่าซื้อทองรูปพรรณ สามารถหักลดหย่อนได้หรือไม่? ได้ เฉพาะค่ากำเหน็จ (ตามมูลค่าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม) หากได้รับ e-Tax Invoice กรณีจ่ายค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการหลายครั้ง จะสามารถนำมูลค่าการซื้อสินค้าหรือการรับบริการ แต่ละครั้งมารวมกันเพื่อใช้สิทธิได้หรือไม่? ได้ แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกินที่กำหนด กรณีจ่ายค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการครั้งเดียว โดยมูลค่าการซื้อสินค้าหรือการรับบริการนั้นสูงกว่า ที่กำหนด สามารถใช้สิทธิได้หรือไม่? ได้ แต่ไม่เกินที่กำหนด การซื้อสินค้าหรือการรับบริการจากผู้มิได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถ หักลดหย่อนได้ทุกกรณีหรือไม่? ได้ เฉพาะกรณีซื้อสินค้าหรือรับบริการดังต่อไปนี้ หนังสือ หนังสือพิมพ์และนิตยสาร หนังสือ หนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว สินค้าหรือบริการของวิสาหกิจชุมชนที่จดทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร สินค้าหรือบริการของวิสาหกิจเพื่อสังคมที่จดทะเบียนต่อสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่ไม่สามารถหักลดหย่อนได้ ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์ ค่าซื้อยาสูบ ค่าซื้อน้ำมัน ค่าซื้อก๊าซ และค่าบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับเติมยานพาหนะ ค่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และค่าซื้อเรือ ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลา ระหว่างวันที่ 16 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เช่น ค่าสมาชิกต่าง ๆ ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ค่าที่พักในโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย ค่าที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ** ทั้งนี้ E-Tax Invoice ของเน็ตเวย์ฯ ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้เนื่องจากเป็นสัญญาบริการระยะยาว ** Netway Communication ให้บริการด้าน Cloud, Hosting และ IT พื้นฐานสำหรับธุรกิจ เป็นตัวแทนแบรนด์ไอทีชั้นนำมากมาย ทั้ง Microsoft, Google, Digicert, ฯลฯ เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลคุณ 24 ชม. ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ Line : @netway (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://bit.ly/line-netwayFacebook : m.me/netway.offcialTel : 02-055-1095Email : support@netway.co.thWeb Chat : [[URL]]/
6 อันดับแรก แพลตฟอร์ม CMS สำหรับงานเว็บไซต์ในปี 2025 แพลตฟอร์ม CMS (Content Management System) คือซอฟต์แวร์สำหรับติดตั้งโดยต้องมีโดเมนและโฮสติ้ง ซึ่งซอฟต์แวร์นี้ช่วยให้สร้าง จัดการ และแก้ไขเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้เอง แพลตฟอร์มนี้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านเทคนิคมากนักเพราะมีเครื่องมือการจัดการที่สมบูรณ์ โดย Features หลักๆ ของ CMS ทั่วไปที่มี คือ Themes/Templates Plugins/Extensions User Management SEO Tools Mobile Responsiveness Headless CMS AI and Automation Cloud-Based Solutions ซึ่งทำให้ CMS เป็นเครื่องมือที่สร้างเว็บไซต์และดูแลเว็บไซต์ที่สมบูรณ์ครบครัน จึงเป็นที่นิยมสำหรับผู้ใช้งานทั่วโลก มาดูว่ารายชื่อแพลตฟอร์ม CMS ที่ดีที่สุด 6 อันดับแรกในปี 2025 มีอะไรบ้าง 1. WordPress WordPress เปิดตัวในปี 2003 และเป็น CMS ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลก WordPress เว็บไซต์กว่า 40% และเป็นที่รู้จักจากอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย มีระบบปลั๊กอิน WordPress ที่ครอบคลุม และธีมที่ปรับแต่งได้ เวอร์ชั่นล่าสุด WordPress 6.7.1 ข้อดีของ WordPress Flexibility and Customization SEO-Friendly Services Cost-Effectiveness Large Community Scalability Third-Party Integrations 2. Joomla Joomlaเป็น CMS รุ่นเก่าอีกตัวหนึ่งที่เปิดตัวในปี 2005 เป็นแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพที่สามารถใช้กับเว็บไซต์ทุกรูปแบบและยังมีตัวเลือกการปรับแต่งมากมายที่ช่วยให้ปรับแต่งเว็บไซต์ให้เป็นแบบที่ต้องการได้ โดย Joomla เป็นที่รู้จักในตลาดว่ามีโซลูชันที่ดีมีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาฟีเจอร์การจัดการระบบผู้ใช้งาน (user management) ค่ายนี้ครองส่วนแบ่งการตลาด 2.1% ของเว็บไซต์ทั้งหมดที่มีอยู่บนอินเทอร์เน็ต เวอร์ชั่นล่าสุด 5.2.3 ข้อดีของ Joomla Advanced User Management Wide Range of Extensions Customizable Templates Multilingual Support SEO Tools Custom Development 3. Drupal Drupal เปิดตัวครั้งแรกในปี 2001 ซึ่งเปิดตัวก่อน WordPress และ Joomla เป็น CMS ดั้งเดิมอีกตัวหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสามารถในการปรับแต่งและความยืดหยุ่นของโปรแกรม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างและจัดการเว็บไซต์ที่ซับซ้อน CMS นี้เน้นเรื่องการปรับแต่งโปรแกรมขั้นสูง โดยมีฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย เช่น แก้ไขเนื้อหาได้เอง (Custom Content) และการครอบคลุมเรื่องการซัพพอร์ต API ดังนั้น Drupal จึงได้รับความนิยมอย่างมากจากนักพัฒนาและบริษัทขนาดใหญ่ที่มีทีมไอทีสำหรับพัฒนาภายในองค์กร เนื่องจาก Drupal มีโซลูชันเว็บไซต์ที่ซับซ้อนกว่าค่ายอื่น จึงครองส่วนแบ่งการตลาดน้อยกว่า Joomla และ WordPress โดยคิดเป็น 1.4% ของเว็บไซต์ทั้งหมด ข้อดีของ Drupal Modular Architecture Extensive API Support Scalability and Performance Security Multilingual Website Support Thousands of Modules 4. Wix, Squarespace และ Shopify 3 ค่ายนี้ใช้ได้ดีเสมอกัน Wix, Squarespace และ Shopify เป็นแพลตฟอร์ม CMS ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งานและผู้ใช้ที่ยังไม่เชี่ยวชาญด้านเทคนิค แพลตฟอร์มเหล่านี้มีบริการโฮสต์เว็บของตนเองและเรียบง่ายกว่า WordPress, Joomla และ Drupal มาก แต่ยังขาดฟังก์ชันขั้นสูงบางอย่าง แพลตฟอร์ม CMS ทั้ง 3 นี้ผูู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีทักษะทางเทคนิคใดๆ และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเว็บบล็อก เว็บไซต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง ความนิยมและการใช้งานทั้ง 3 แพลตฟอร์มยังมีส่วนแบ่งการตลาดที่ใกล้เคียงกันอีกด้วย ข้อดีของ Wix Ease of Use Wide Range of Templates Wix App Market ข้อดีของ Squarespace Templates Ecommerce Design Flexibility ข้อดีของ Shopify eCommerce Scalability App Ecosystem จาก CMS ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เหมาะสำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์และผู้ใช้งานทั่วไป โดยต้องเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม หากมีชื่อโดเมน (Domain) และโฮสต์ติ้ง (Hosting) พื้นที่สำหรับเก็บข้อมูล และต้องการมีเว็บไซต์ เพียงแค่ตั้งค่าเว็บโฮสติ้งติดตั้ง CMS เลือกธีมสำหรับเว็บไซต์ของคุณโดยปรับแต่งเลเอาท์เล็กน้อย เลือกปลั๊กอิน ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ อัพโหลดรูปและเนื้อหาข้อมูลต่างๆ บนเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจ Windows Hosting หรือ Linux Hosting หากสนใจบริการโฮสต์ติ้ง (Hosting) กับ Netway Communication คลิกอ่านรายละเอียดได้ที่ Windows Hosting หรือ Linux Hosting Netway Communication ให้บริการด้าน Cloud, Hosting และ IT พื้นฐานสำหรับธุรกิจ เป็นตัวแทนแบรนด์ไอทีชั้นนำมากมาย ทั้ง Microsoft, Google, Digicert, ฯลฯ เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลคุณ 24 ชม. ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ Line : @netway (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://bit.ly/line-netwayFacebook : m.me/netway.offcialTel : 02-055-1095Email : support@netway.co.thWeb Chat : [[URL]]/ อ้างอิง: scalahosting