Netway Communication ขอเชิญผู้สนใจในเทคโนโลยี และไอที เข้าร่วมชม Netway Connect Live บน Facebook Live >> netway.offcial > Netway Connect Live ครั้งที่ 30 < วันพุธที่ 8 กรกฏาคม 2563 เวลา 14.00-15.00 น. หัวข้อ : รู้จักกับการลงลายมือชื่ออีเล็กทรอนิกส์ (Document Signing) รายละเอียด เปลี่ยนองค์กรของคุณให้เป็นมาตรฐานสากลและรองรับตามกฎหมายแบบ Paperless 100% ด้วย Document Signing SSL ที่จะช่วยให้คุณสามารถอนุมัติเอกสารได้ทุกที่ทุกเวลา วิทยากร : อนันต์ แซ่คู ( ตำแหน่ง Senior IT Support ) ___________________________________________________________________ > Netway Connect Live ครั้งที่ 31 < วันพุธที่ 22 กรกฏาคม 2563 เวลา 14.00-15.00 น. หัวข้อ : การจัดการระบบ Approve ง่ายๆ บน SharePoint List ด้วย Microsoft Power Automate รายละเอียด อนุมติเอกสารทั้งทีไม่เห็นต้องอยู่ที่เดียวกัน จัดการง่ายๆ ด้วย Microsoft Power Automate - ไม่ว่าขึ้นเหนือล่องใต้คุณสามารถอนุมัติเอกสารง่ายๆ เพียงแค่ไม่กี่วินาทีด้วย Microsoft Power Automate วิทยากร : อนันต์ แซ่คู ( ตำแหน่ง Senior IT Support ) ___________________________________________________________________ ช่องทางติดต่อเน็ตเวย์ คอมมูนิเคชั่น Line : @netway (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://bit.ly/line-netway Facebook : m.me/netway.offcial Tel : 02-055-1095 Email : support@netway.co.th Web Chat : https://netway.co.th/ #เน็ตเวย์ช่วยคุณได้ #Support24ชั่วโมง #Netwayconnect
"เปรียบเทียบภาพรวมธุรกิจความงามของสหรัฐฯ ช่วงวิกฤต COVID-19 กับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี2008-2009" เพียงในระยะเวลาไม่ถึงปีวิกฤต COVID-19 ส่งผลกระทบต่อสหรัฐฯ ได้สาหัสเสียยิ่งยิ่งกว่าช่วงเศรฐกิจถดถอยในปี 2008-2009 แล้วถ้าวันที่วิกฤตนี้ผ่านไปธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความงามทั้งหลายจะมี “New Normal” หรือสภาพความเป็นไปที่ปกติในรูปแบบใหม่อย่างไร เราลองมาฟังมุมมองจากฝั่งสหรัฐอเมริกากันดูนะ บทความที่ทางเรานำเสนอวันนี้ เขียนโดย Kline ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ให้คำปรึกษาด้านธุรกิจบริการ และบทความนี้ถูกเผยแพร่ในข่วงที่ COVID-19 กำลังเริ่มแพร่ระบาดอย่างหนักไปทั่วสหรัฐฯ ธุรกิจานความงามรวมถึงธุรกิจที่ไม่จำเป็นอื่นๆต่างก็ถูกประกาศให้ปิดบริการชั่วคราวทั่วประเทศ และถึงแม้ว่าทางภาครัฐจะออกมาตรการช่วยเหลือกิจการต่างๆทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อชะลอไม่ให้ธุรกิจ ปิดกิจการ และทางร้านค้าเองต่างก็มีแคมเปญหรือกลยุทธออกมาเพื่อให้ธุรกิจไปต่อ แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจครั้งนี้ถือว่าสาหัสเอามากๆเพราะหากปิดร้านเสริมสวยขนาดใหญ่แค่เพียง 1 เดือน จะทำให้สูญเสียรายได้ในอุตสาหกรรมนี้ไปกว่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ เราลองมาดูภาพรวมผลกระทบ เปรียบเทียบระหว่างวิกฤต COVID-19 กับ เมื่อปี 2008-2009 กันดู *จากการวิเคราะห์โดย Kline กว่าเศรษฐกิจถดถอยครั้งก่อนจะฟื้นคืนยังสภาพเดิมก็คือในปีในปี 2012 ส่วนกรณีว่าวิกฤต COVID-19 จะสามารถกลับมาสู่สภาพเดิมเมื่อไรยังไม่มีใครตอบได้ ในปี 2008 ยอดขายของผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมไม่มีการเติบโต และในปี 2009 ก็ลดลงจากปีก่อนหน้ากว่า 6% ซึ่งในปี 2009 นั้น ถือได้ว่าเป็นปีที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย การเติบโตของยอดขายกลับมาอีกครั้งในอัตราที่ช้าและไม่สอดคล้องกับการเติบโตในระดับปานกลาง และก็เริ่มเติบโตต่อเนื่องในปี 2012 และหลังจากนั้น ภายในปี 2019 ยอดขายในตลาดเสริมสวยอยู่ที่ 3.7 พันล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 3.6% จากปี2018 และ CAGR (อัตราการเติบโตของพอร์ตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น) เพิ่มขึ้นเกือบ 4.0% จากปี 2012 ในปี 2020 Kline คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของร้านทำผมส่วนใหญ่จะมียอดขายในประเทศ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ซึ่งลดลงอย่างมากจากปี 2019 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อระดับการลดลง ได้แก่ จำนวนร้านเสริมสวยที่ลดลงและสถานะกำลังซื้อของผู้บริโภครวมถึงปัจจัยอื่นๆ มุมมองภาพรวมของปี 2020 นั้นแลดูมีความหวังที่ริบหรี่เต็มทีหากจะมองตาม Scenario ต่างๆ ก็น่าจะเป็นภาพประมาณนี้คือ 1. Best Case Scenario : ดีที่สุดบรรดาร้านเสริมสวยจะสามารถเปิดได้อีกครั้งในช่วง Q2 โดยมีอัตราการว่างงานรายเดือนอยู่ระหว่าง 5-10% 2. กรณีที่เป็นไปได้มากที่สุด : เปิดร้านเสริมสวยทั้งหมดได้อีกครั้งในช่วง Q3 ของปี 2020 อัตราการว่างงานรายเดือนอยู่ระหว่าง 5-15% 3. Worst Case Scenario : หรือกรณีที่เลวร้ายที่สุด: เปิดร้านเสริมสวยใน Q4 ของปี 2020 ด้วยอัตราการว่างงานรายเดือนมากกว่า 15% สิ่งที่สหรัฐอเมริกากำลังจะเผชิญ ไม่ใช่ความปกติในรูปแบบใหม่ “The Next New Normal” แต่เป็น “New Reality” หรือความจริงใหม่ ที่จะเปลี่ยนแปลงพื้นฐานทุกสิ่งตั้งแต่ระดับฐานราก ทำให้ธุรกิจไม่มีวันกลับไปเริ่มต้นยังจุดเดิม วิธีที่สหรัฐอเมริกากำลังจะเผชิญหลังจากความตกต่ำทางเศรษฐกิจจากวิกฤต COVID-19 จะไม่เหมือนกับสิ่งที่พวกเราส่วนใหญ่เคยประสบมา ธุรกิจจำนวนมากที่มีอยู่เมื่อเริ่ม Q1 ของปี 2020 ปิดตัวและถูกแทนที่ ซึ่งจะเกิดขึ้นจริงในอุตสาหกรรมการบริการ ที่เราเห็นภาพร้านอาหาร กิจการต่างๆในอุตสาหกรรม ท่องเที่ยวที่กำลังประสบปัญหา และมันก็จะเกิดขึ้นกับธุรกิจความงามในระดับมืออาชีพเช่นกัน ร้านเสริมสวยจะเริ่มปิดตัว และกิจการด้านการตลาดและจัดจำหน่ายสินค้าและบริการความงามก็จะถูกเทรกแซงอย่างรวดเร็ว แต่หากมองในเชิงโอกาส การหยุดชะงักดังกล่าวก็จะสร้างโอกาสในการนำเสนอบริการแบบดิจิทัลและโซลูชันที่ปรับให้เข้ากับสถานการณ์และการใช้งานจริงมากขึ้น และในระยะสั้นธุรกิจจะเป็นผู้เลือก จะมีโซลูชั่นหรือขอเสนอทางธุรกิจมากมายมาให้ร้านค้า ภาคธุรกิจ หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ได้เลือกสรรมากยิ่งขึ้นในทุกระดับ และในแง่ของนักการตลาด ซึ่งแล้วแต่มุมมอง ก็จะมีโอกาสมากมายอยู่ในวิกฤต COVID-19 นี้เช่นกัน ตัวอย่างโอกาสในวิกฤตช่วง COVID-19 ที่รอเราอยู่ในอุตสาหกรรมความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม 1. ขอความช่วยเหลือเพื่อความอยู่รอด ขอการสนับสนุนทางการเงินจากภาครัฐ หรือธนาคาร (เงินให้สินเชื่อส่วนลด ฯลฯ ) ขอการสนับสนุนธุรกิจจากภาครัฐ หรือธนาคาร (เงื่อนไขการชำระเงิน ฯลฯ ) 2. เสนอขายผลิตภัณฑ์และชุดอุปกรณ์ DIY ชุดย้อมสีผมจากโคน สินค้าจัดเซ็ต, สูตรการรักษาเส้นผม 3. เปิดช่องทางอีคอมเมิร์ซและการค้าปลีก การตอบสนองความต้องการของลูกค้าออนไลน์ บริการส่งถึงบ้านจากร้านค้าปลีก และร้านเสริมสวยในพื้นที่ใกล้เคียง 4. เริ่มศึกษา AI และวิเคราะห์ให้เข้าใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มศึกษาระบบ AI เพื่อใช้เป็นเครื่องมือการจัดการความรู้ขั้น สูงในการเชื่อมต่อกับผู้ บริโภค และนำข้อมูลที่ผู้บริโภคกำลังค้นหาค้นหาระหว่างอยู่ทีบ้าน มาใช้ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตรงกับความต้องการ 5. เปิดมุมมองให้ตลาดดิจิทัล ลองเปิดใจ ลองลงคอร์สหรือหาเวลาศึกษาและลงมือปรับธุรกิจที่มีให้ตามยุคดิจิตอล จากกรณีของสหรัฐอเมริกาที่เราหยิบยกมานำเสนอข้างต้น อาจช่วยสะท้อนมุมมองให้กับกลุ่มธุรกิจเสริมความงามในประเทศไทยในแง่ของความเข้าใจตลาดที่จะมีผลกระทบกับเรา และโอกาสที่เราจะสร้างได้ในวิกฤตนี้ และ Netway ก็ขอเป็นกำลังใจทุกธุรกิจมีทางรอดและเดินหน้าไปพร้อมกับเรานะคะ ทางเรายินดีในคำปรึกษาด้านไอทีกับคุณตลอด 24 ชม. ค่ะ คุณสามารถหาอ่านบทความต้นฉบับได้ที่ : https://www.klinegroup.com/professional-beauty-market-outlook-covid-19-vs-2008-09-recession/
"7 ไอเดียปรับธุรกิจความงาม เสริมสวย และสปา ด้วย Digital Product" ถึงแม้ว่าจะมีการผ่อนปรนให้เปิดบางกิจการตามมาตรการควบคุมความปลอดภัยในช่วงวิกฤต COVID-19 ธุรกิจความงามและสปาก็ยังมีคำสั่งให้ปิดบริการชั่วคราว และทุกคนยังคงต้องรักษาระยะห่างทางสังคมหรือ Social Distancing กันอยู่ แต่นี่ก็อาจจะไม่ใช่วิกฤตเสมอไป เพราะวันนี้เรามีไอเดียมานำเสนอให้บรรดาธุรกิจเสริมความงาม ทั้งทำผม ทำเล็บ เสริมสวย ร้านนวด สปาที่ได้รับผลกระทบให้ต้องปิดทำการชั่วคราว สามารถเตรียมพร้อมปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่หรือ New Normal ด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์ดิจิทัล เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกค้าทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ รวมถึงสามารถสร้างโอกาสด้านรายได้ในปัจจุบัน และในอนาคตยุค Post-Covid-19 7 แนวคิดผลิตภัณฑ์ดิจิทัลสำหรับธุรกิจความงามและสปา ธุรกิจความงามและสปาสามารถนำความรู้และทักษะที่เฉพาะด้านมาใช้ในการสร้างผลิตภัณฑ์ดิจิทัล และสามารถขายของได้ในขณะที่หน้าร้านถูกปิดให้บริการชั่วคราว เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมจากลูกค้าทั่วโลกในอนาคต ไอเดียที่ดีที่สุดน่าจะเป็นพวกข้อมูลผลิตภัณฑ์ต่างๆ วิธีการใช้ เคล็ดลับในการใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นี่เป็นแค่ตัวอย่างบางส่วนเท่านั้นที่ทางเรารวบรวมมานำเสนอค่ะ 1. เคล็ดลับการดูแลเส้นผม แนะนำสไตล์หรือรูปแบบทรงผม การตัดแต่งทรงผม แนะนำทีละขั้นตอนเพื่อให้ผู้ชมสามารถทำได้ด้วยตนเอง หรือสามารถออกแบบทรงผมให้กับเพื่อนหรือคนในครอบครัว พิจารณาว่าคุณจะสามารถทำทรงผมให้แก่เด็กๆ หรือมองหาทรงผมสำหรับผมยาว ว่าจะให้ออกมาเป็นทรงไหน 2. สอนแต่งหน้า สอนวิธีแต่งหน้าแบบมืออาชีพ การครีเอทลุคต่างๆ อาจจะเป็นการแนะนำ่สั้นๆ เทคนิคเล็กๆ หรือการแต่งหน้าออกงานแบบเป็นทางการ รวมถึงคำแนะนำในการเลือกใช้สีและผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม 3. คู่มือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านความงามหรือสปา เราอาจเคยลองใช้ผลิตภัณฑ์จำนวนมากในตลาดมากกว่าคนปกติ ดังนั้นคุณก็สามารถรีวิวหรือแบ่งปันความรู้นั้นให้กับลูกค้าได้ ลองจัดลำดับหรือเรียงลำดับความยอดนิยม ใช้แล้วชอบ ใช้แล้วดี และเคล็ดลับในการใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 4. คู่มือแนะนำกิจกรรมพิเศษ คิด Event หรือโอกาสพิเศษที่จะนำลูกค้ามาสู่ธุรกิจความงามหรือสปา และสร้างคู่มือในการบริการสำเร็จรูปใน 1 วัน เช่น บริการการจัดงานแต่งงาน พร้อมจัดทำคู่มือสำหรับเจ้าสาว โดยรวมรวมข้อมูลเกี่ยวกับพิธีรอบเช้า และตารางข้อมูลก่อนเริ่มพิธีแต่งงานรอบเย็นประมาณนี้ 5. คำแนะนำในการซื้อและการรักษา มองมุมกว้างๆ อย่่าคิดถึงแต่ลูกค้าของคุณเพียงอย่างเดียว ในยุคดิจิทัลหรือโลกออนไลน์ เราสามารถที่จะสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ รวมถึงให้คำแนะนำผู้ที่ทำธุรกิจความงามเช่นเดียวกัน เราอาจจะแนะนำเจ้าของธุรกิจต่างๆในการรักษาลูกค้า หรือแนะนำการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เข้าร้าน เช่น แนะนำอุปกรณ์ หรือระบบสตอคสินค้าที่มีมาตรฐาน 6. คำแนะนำการเปิดตัวธุรกิจความงามหรือสปา เจาะลึกยิ่งขึ้นด้วยคำแนะนำของคุณสำหรับเจ้าของธุรกิจด้านความงามหรือสปาที่ต้องการโดยเสนอบทเรียนเกี่ยวกับวิธีการเปิดธุรกิจ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างธุรกิจทั่วไปที่ประสบความสำเร็จ 7. สร้างประสบการณ์สปาในบ้าน แน่นอนว่าความรู้ที่คุณมีเป็นความรู้เฉพาะทางที่คนทั่วไปไม่มีทางรู้แน่นอน ลองส่งต่อเกร็ดความรู้เล็กๆเพื่อให้ลูกค้าสามารถทำได้เองที่บ้าน หรือสร้าง Customer Story สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปแล้วใช้งานที่บ้านจริงๆ ให้ลูกค้าแบ่งปันความรู้สึก ชอบหรือไม่ชอบอะไรตรงไหน และเราก็สามารถที่จะนำมาเผยแพร่ให้กับคนอื่นๆได้ ไอเดียการสร้างผลิตภัณฑ์ดิจิทัลเพื่อสนับสนุนธุรกิจของคุณทั้งในปัจจุบันและอนาคต เป็นการขายที่นิยมและได้ผลอย่างยอดเยี่ยม ในช่วงที่ธุรกิจต้องปิดเนื่องจาก COVID-19 นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ในอนาคต โดยยังคงสามารถขายให้กับลูกค้าทั้งใกล้และไกล ลองใช้เคล็ดลับเหล่านี้เพื่อหาไอเดียสำหรับนำเสนอข้อมูลออนไลน์ในช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจเป็น Facebook, Twitter, Youtube หรือ LineOA รวมถึงลองเรียนรู้เพิ่มเติมว่าจะนำพาธุรกิจไปต่ออย่างไรให้รอดในช่วงเวลาที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้ เน็ตเวย์พร้อมสนับสนุนทุกธุรกิจให้ดำเนินต่อไปได้อย่างไม่มีสะดุด หากคุณกำลังมองหา Solution ต่างๆ ในการเปิดธุรกิจออนไลน์ เน็ตเวย์ฯ ยินดีให้คำปรึกษา ตลอด 24 ชม. ค่ะ ที่มา : https://www.godaddy.com/garage/digital-product-ideas-beauty-spa/ _____________________________________________________________________________ Netway Communication ให้บริการด้าน Cloud และ IT พื้นฐานสำหรับธุรกิจ เป็นตัวแทนแบรนด์ไอทีชั้นนำมากมาย ทั้ง Microsoft Office , Google Workspace เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลคุณ 24 ชม. ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ Line : @netway (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://bit.ly/line-netway Facebook : m.me/netway.offcial Tel : 02-055-1095 Email : support@netway.co.th Web Chat : https://netway.co.th/ #ให้เราช่วยคุณเรื่องไอที #การสื่อสาร Netway #มีครบจบที่เดียว #Office365 #Microsoft #Netway Communication #GSuite
"8 วิธีในการสร้างรายได้หากธุรกิจต้องปิดชั่วคราว" ในโลกของธุรกิจส่วนใหญ่แล้วนั้นคือการทำธุรกิจและสร้างรายได้ผ่านหน้าร้าน หรือออฟฟิศ เพื่อให้ลูกค้าสามารถ Walk in มาซื้อสินค้า หรือเลือกรับบริการต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย แต่ภาพเหล่านี้เริ่มจะกลายเป็นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากขึ้นเพราะด้วยเงื่อนไขมาตรการณ์ป้องกันการระบาดของเชื้อโรค COVID-19 เนื่องจากทั่วโลกและประเทศไทยเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ถึงแม้ว่าบรรยากาศทั่วในประเทศไทย จะดูผ่อนปรนและไม่เคร่งเครียดเท่ากับช่วง เดือน มี.ค. - เม. ย. 2563 ที่ผ่านมา แต่เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อ จึงทำให้ธุรกิจทั่วไปหลายแห่งตัดสินใจเลือกที่จะปิดกิจการหรือปิดทำการชั่วคราว เพื่อรักษาธุรกิจเอาไว้ และถึงแม้ว่าหน้าร้านที่เป็นช่องทางการทำมาหากินหลักจะปิดลง มันก็ไม่ได้หมายความว่า จะเป็นการปิดช่องทางหารายได้ของคุณเสมอไป วันนี้เรามี "8 วิธีในการสร้างรายได้หากธุรกิจของคุณปิดชั่วคราว" เพื่อเป็นไอเดียให้ธุรกิจสามารถสร้างรายได้เสริมในช่วงปิดทำการชั่วคราว หรือปรับรูปแบบการขายแนวใหม่เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจและพนักงานต่อไป 1. ลองนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการก่อนขาย หากลูกค้าไม่สามารถซื้อสินค้าหรือเลือกรับบริการได้ในตอนนี้ การกระตุ้นให้พวกเขาได้รับโปรโมชั่นดีๆอะไรสักอย่าง ข้อเสนอใหม่หรือดำเนินการจัดฟรี! รวดเร็วทันใจ ตัวอย่างเช่น ร้านทำผมสามารถส่งเสริมให้ลูกค้าชำระเงินล่วงหน้า สำหรับการจองคิวทำผมครั้งต่อไปโดยให้ผลิตภัณฑ์ฟรีเมื่อกำหนดเวลานัดนั้น เป็นต้น 2. ขายบัตรของขวัญ (Gift Voucher) อีกวิธีหนึ่งในการให้ลูกค้าชำระเงินล่วงหน้า เพื่อที่ลูกค้าจะได้รับบัตรของขวัญอื่นๆเป็นของแถม มากกว่าการรอให้กิจการเปิดแล้ว Walk in เลือกใช้บริการหน้าร้าน ตัวอย่างเช่น ร้านอาหารสามารถเสนอข้อตกลง เช่น ซื้อบัตรของขวัญ 500 บาทและรับบัตรของขวัญเพิ่มอีก 100 บาท ฟรี! หากคุณรับข้อเสนอนี้และใช้บัตรของขวัญนี้ได้เพียงใบเดียวต่อการเข้ามาใช้บริการที่ร้าน เพื่อกระตุ้นให้มีการกลับมาใช้บริการครั้งที่สอง 3. เสนอการบริการส่งสินค้าที่สั่งซื้อถึงมือ โดยที่ลูกค้าไม่ต้องลงจากรถ หากลูกค้ายังคงพอใจเข้ามาใช้บริการกับธุรกิจคุณหรือโทรหรือสั่งซื้อออนไลน์ก่อนเข้ามารับเอง การส่งมอบสินค้าเพื่อให้ลูกค้าไม่ต้องออกจากรถยนต์ส่วนตัว เพียงแค่แจ้งเลขทะเบียนรถ และข้อมูลอื่นๆก่อนมารับสินค้า เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการบริการที่ประทับใจอย่างหนึ่งในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อโรคแบบนี้ 4. จัดส่งสินค้าฟรีในระแวกใกล้เคียง ถ้าปกติธุรกิจของคุณไม่มีบริการเดลิเวอร์รี่มาก่อน นับว่าตอนนี้เป็นเวลาทองที่จะเริ่มแล้ว คุณอาจจะไม่ต้องเหนื่อยจ้าง Messenger ประจำให้เลืองเงิน แค่คุณเข้าร่วมกับบริการจัดส่งอาหาร เช่น Grab Food, Line Man, Get Food และอื่นๆ ที่สามารถจัดส่งให้คุณได้ (และยังช่วยส่งเสริมตัวเลือกอาหารให้กับลูกค้าด้วย) และอย่าลืมว่าการจัดส่งไม่จำเป็นต้องมีแค่ร้านอาหารเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ร้านหนังสือสามารถอนุญาตให้ลูกค้าโทรสั่งซื้อแล้วส่งหนังสือไปได้เช่นกัน 5. ให้บริการออนไลน์ หากธุรกิจของคุณเน้นขายการบริการเป็นหลัก แล้วคุณสามารถเสนอขายการบริการเหล่านั้นให้ลูกค้าประทับใจได้อย่างไร? การใช้เครื่องมือการประชุมทางวิดีโอแบบตัวต่อตัว หรือบริการถ่ายทอดสดกลุ่ม เพื่อชี้แจ้งการบริการนั้นๆให้กับลูกค้าหลายราย ถือเป็นทางออกที่ดีไม่ใช่น้อย 6. สร้างผลิตภัณฑ์ทางด้านดิจิตอล อีกวิธีหนึ่งในการสร้างรายได้ในขณะที่ธุรกิจของคุณปิดทำการชั่วคราวนั้น ก็คือการใช้ช่วงเวลาหยุดทำงานเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ดิจิทัลที่คุณสามารถขายออนไลน์ได้ ตัวอย่างเช่น ร้านอาหารรสเลิศสามารถให้เชฟสร้างเวิร์กช็อปเกี่ยวกับทักษะการใช้มีด หรือโรงยิมสามารถรวบรวมโปรแกรมออกกำลังกายออนไลน์ได้ 7. จัดกิจกรรมระดมทุนออนไลน์ เหล่าลูกค้าที่น่ารักและประทับใจในแบรนด์ของคุณ อาจกำลังมองหาวิธีที่ที่จะสนับสนุนธุรกิจของคุณในช่วงเวลาที่ยากลำบาก อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนแก่ลูกค้านั้นคือการจัดกิจกรรม "ระดมทุนออนไลน์" ตัวอย่างเช่น บาร์หรือร้านนั่งดื่มต่างๆที่ถูกบังคับให้ปิดกิจการ อาจจัดงานสาธิตเครื่องผสมอาหารออนไลน์บน Facebook Live และเชิญผู้ชมบริจาค "เคล็ดลับ" ให้กับบาร์เทนเดอร์ 8. ดึงดูดลูกค้าของคุณให้ยังคงสนับสนุนธุรกิจคุณ เมื่อคุณเปิดทำการอีกครั้ง เมื่อธุรกิจของคุณต้องปิดทำการชั่วคราว ในระหว่างนี้ให้ลองเริ่มวางแผนการกลับมาเปิดอีกครั้ง ชแบบยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารผ่านทางอีเมลหรือโซเชียลมีเดีย แชร์การอัปเดตเกี่ยวกับสถานการณ์ร้านค้า และสิ่งที่ธุรกิจของคุณกำลังทำเพื่อรับมือกับสถานการณ์อันยุ่งเหยิงนี้ รวมถึงโปรโมชันพร้อมที่จะปล่อยทันทีเมื่อคุณเปิดทำการอีกครั้ง หวังว่าด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ จะช่วยให้คุณจะพบวิธีที่จะดึงดูดความสนใจของลูกค้าและสร้างรายได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้....... ที่มา : https://www.godaddy.com/garage/generate-revenue-when-business-doors-are-shut/
"10 เคล็ดลับสำหรับร้านเสริมสวย สปา และธุรกิจเสริมความงาม ในช่วงวิกฤตการณ์ COVID-19" ทันทีที่ปลดล๊อคดาวน์วันที่ 3 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา บรรยากาศร้านเสริมสวยก็เริ่มกลับมาคึกคักกันมาก บางที่อย่าง MUM & ME Hair คิวยาวไปถึงปลาย ก.ค. (ขณะที่เราเขียนบล็อกนี้คือช่วงปลายเดือน พ.ค. 2020) หรือบางที่ในช่วงแรกๆ ก็คึกคักมากจนจัดคิวลูกค้าไม่ไหว อย่างหลายๆ ร้านในย่านสุขุมวิท ที่เราได้มีโอกาสพูดคุยโดยตรง เกิดความแออัดในร้าน จนทำให้ต้องถูกทางเขต หรือคอมมิวนิตี้มอลล์ขอความร่วมมือให้ปิดรับลูกค้าไปก่อนเพื่อรอจัดสรรความเรียบร้อยก่อน ทำให้แทนที่จะเป็นโอกาส กลับกลายเป็นวิกฤตซ้ำซ้อนไปอีก วันนี้เราได้รวบรวมแหล่งไอเดียทางรอดที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณไม่หยุดอยู่กับที่หรือเดินถอยหลัง รวมถึงจะช่วยเปิดมุมมองเปิดช่องทางใหม่ๆ ช่วยคุณรักษาลูกค้าเเละเข้าหาลูกค้าใหม่ ลองมาดูกันนะคะว่ามีอะไรบ้าง 1. การจองล่วงหน้า ลูกค้าสมัยนี้ค่อนข้างจะคุ้นเคยระบบไอที เวลาทำนัดหมายก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ฉะนั้นไอเดียที่เราอยากเสนอก็คือลองมองหาระบบจองคิว ที่ลูกค้าสามารถทำได้เองจากที่บ้านก่อนที่จะมาใช้บริการจริงที่ร้าน อาจจะเป็นอะไรง่ายๆ เช่น ระบบฟอร์ม ฟรี อย่าง Microsoft Form หรือ Google Form เพื่อสร้างฟอร์มลงทะเบียนง่ายๆ หรือจะเป็นระบบจองคิวอย่าง Microsoft Bookings ที่คุณสามารถทดลองใช้งานได้ฟรี บน Office 365 ลูกค้าสามารถเลือกช่าง และเวลารับบริการได้ด้วยตนเอง โดยระบบจะมีการแจ้งเตือนทางอีเมลให้ลูกค้าเพื่อป้องกันการ No-Show อีกด้วย และหากลูกค้าเกิดเปลี่ยนใจเลือกวันและเวลาใหม่ เราก็จะได้รับการแจ้งเตือนผ่านทางแอพพลิเคชั่น Microsoft Bookings บนมือถือหรือทางอีเมลอีกด้วย ตัวอย่างด้านบนที่เราเลือกมาเป็นของฟรีค่ะ แต่ถ้าหากคุณมีทุน อาจจะลองศึกษาระบบที่เชื่อมกับการบริหารจัดการหลังร้านที่ซับซ้อนขึ้น อย่าง Mind Body ก็ได้ค่ะ 2. จัดเซ็ตขายปลีกออนไลน์ ถ้าร้านเสริมสวยหรือสปาของคุณจำหน่ายผลิตภัณฑ์ค้าปลีกอยู่แล้ว ลองเปิดขายสินค้าออนไลน์ในช่วงนี้ดีไหม จะเป็นทาง Facebook, LineOA, Lazada, Shopee ก็ได้ เพื่อช่วยระบายสต๊อคไม่ให้ทุนจมไปมากกว่านี้ ทั้งแชมพู ครีมนวด น้ำยาย้อมผม หรือน้ำมัดนวดต่างๆ ที่ลองเอามาจัดเป็นเซ็ต ให้ทดลองใช้ก่อน เขียนเรื่องราวว่าแต่ละเซ็ตช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง เช่นรังแคเรื้อรัง ผมไม่มีน้ำหนัก หรือผมมัน เผื่อจะให้ลูกค้าสนใจแล้วทักเข้ามาเพราะหากเรารอแต่ลูกค้าที่เข้าหน้าร้านอย่างเดียว คงไม่พอให้ไปต่อแน่ๆ 3. ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่คุณมีให้มากที่สุด ธุรกิจอาจจะหยุดบริการ แต่มันไม่ได้หมายความว่าคุณต้องหยุดทำงาน คุณยังต้องพูดคุยกับผู้จัดการธุรกิจและผู้ร่วมก่อตั้งของคุณเกี่ยวกับเป้าหมายหรือวิธีการรับมือช่วงสถานการณ์ดังกล่าว ตัวอย่างเช่นตอนนี้เป็นเวลาที่ดีในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการต่างๆ และสร้างแผนการเปิดตัวหลัง COVID-19 จบ เช่น สร้างแคมเปญร่วมสนุกหรือ โปรโมชั่นใหม่ๆ หากว่าร้านใกล้จะเปิดให้บริการได้อีกครั้ง เราอยากแนะนำให้คุณลองเปิดใจใช้โปรแกรมที่สามารถทำ Video Conference อย่าง Microsoft Teams, Hangout Meet ของค่าย Google หรือโปรแกรมอื่นๆ ในการพูดคุยกับพาร์ทเนอร์ หรือที่ปรึกษา เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วง COVID-19 4. ปรับเปลี่ยนเวลาการให้บริการพร้อมทั้งตั้งข้อกำหนดการให้บริการ หากธุรกิจเสริมสวยหรือทำเล็บของคุณยังคงเปิดอยู่ คุณอาจต้องพิจารณาอีกครั้งว่าคุณจะปฏิบัติกับลูกค้าอย่างไร (ให้แน่ใจว่าต้องไม่ผิดจากมาตรการณ์ของทางรัฐบาล) แม้ว่าในพื้นที่ที่คุณอยู่จะไม่มีข้อกำหนดเรื่องของ Social Distancing ก็ยังจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงหรือลดการสัมผัสถึงเนื้อถึงตัวเช่นกัน หากธุรกิจของคุณเป็นธุรกิจที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ อาจจะต้องกำหนดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ เช่น ในพื้นที่ 1 คูหาอาจจะรับลูกค้าเพียงแค่รอบละ 2 คนเท่านั้น และทิ้งระยะห่างระหว่างรอบ เพื่อให้สามารถทำความสะอาดร้านได้ รวมถึงจัดแบ่งโซนในการรอเข้ารับบริการให้มีพื้นที่ห่างกัน 5. ปรับค่าธรรมเนียมในการยกเลิก บางร้านที่เคยมีการคิดค่าธรรมเนียมการยกเลิกบริการ ในช่วงที่ทุกคนประสบปัญหากันอยู่ก็อยากแนะนำให้คุณลองยืดหยุ่นกับลูกค้าดูนะคะ 6. ให้พนักงานเข้าใจ และรับมือกับ COVID-19 แบบมีสติและเป็นมืออาชีพ สุขภาพและสุขอนามัยของทุกคนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เราขอแนะนำให้ทางร้านสร้างความชัดเจนกับพนักงาน และให้พนักงานเกิดความเข้าใจที่ตรงกันว่า COVID-19 เป็นโรคติดต่อที่มีความเสี่ยง และสถานที่ของทางร้านยังคงมีความเสี่ยงอยู่เสมอ เพื่อให้คอยระแวดระวังทั้งตนเองและคนรอบข้าง ให้มีมาตรฐานในการรับมืออย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาระยะห่าง หมั่นล้างมือ ทำความสะอาดอุปกรณ์ และสถานที่ มีแผงกั้นกันการฟุ้งกระจาย ฯลฯ เพราะถ้าหากจุดใดจุดหนึ่งมีความเสี่ยงขึ้นมา ก็อาจจะกระทบกับธุรกิจทั้งหมดซึ่งนั่นก็หมายถึงทางรอดของทุกคนในร้านด้วยเช่นกัน 7. รักษาความสะอาด แล้วก็อย่าลืมแชร์ให้โลกรู้ คุณอาจทำความสะอาดร้านเสริมสวยหรือสปาเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เราอยากให้คุณลองสื่อสารให้ลูกค้า เพื่อเป็นโอกาสที่จะทำให้ลูกค้าของคุณสบายใจที่มาใช้บริการตัวอย่างเช่นร้านทำเล็บ หรือร้านทำผมที่เราได้มีโอกาสไปใช้บริการในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการอัดวิดีโอเก็บภาพนิ่งว่าระหว่างที่ปิดบริการ ทางร้านได้จ้างเจ้าหน้าที่มาทำความสะอาดฆ่าเชื้ออย่างไร วิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ทั้งที่หน้าจอในร้าน โซเชียลมีเดียของทางร้านเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าที่มาใช้บริการ อย่าปล่อยให้โอกาสผ่านไปลองทำตามไอเดียนี้กันได้นะคะ 8. สื่อสารกับลูกค้าให้ทันท่วงที ช่วงที่เราพอจะมีเวลามานั่งพิจารณาธุรกิจของเรา ลองวางแผนเรื่องการสื่อสารกับลูกค้า สร้างเนื้อหาใหม่ๆอัพเดทข่าวสารทางอีเมลหรือทาง Facebook ให้กับลูกค้า หากคุณต้องการกำหนดกลยุทธ์ใดๆ ตัวอย่างเช่นหากต้องการแจ้งปรับเวลาเปิด-ปิดร้าน ถ้าคุณมีฐานข้อมูลอีเมลลูกค้าก็อาจจะใช้ eDM (Email Direct Marketing) ในการสร้างแคมเปญ และส่งข่าวสารถึงลูกค้าผ่านทางอีเมล อีกแนวคิดหนึ่งคือ Microsoft Bookings ที่ลูกค้าสามารถส่งข้อความเพื่อยกเลิกหรือเลื่อนกำหนดเวลานัดหมายใหม่ แล้วทางร้านก็ตอบรับหรือปรับเปลี่ยนเวลานัดหมายได้ทันที แบบนี้ก็จะไม่เกิดปัญหา No-Show 9. คำปรึกษา คำแนะนำผ่านช่องทางต่างๆ เสมือนว่าได้นั่งคุยกับลูกค้าจริงๆ ในช่วงเวลานี้อาจจะช่วยแนะนำการตัดผมหรือสอนวิธีการนวดผ่าน Facebook Live อย่างน้อยคือให้ลูกค้าได้เห็นคุณในรูปแบบออนไลน์พร้อมสร้างการจดจำให้กับลูกค้านึกถึงชื่อร้าน ชื่อแบรนด์ สร้างคอนเทนต์ดีๆเพื่อให้มีผู้ติดตามเยอะๆ ทำเช่นนี้อาจจะสร้างฐานลูกค้าออนไลน์ได้เพื่อยกระดับการสื่อสารไปยังรูปแบบอื่นๆไปพร้อมๆ กันได้อีกด้วย 10. พยายามเชื่อมต่อกับลูกค้าตลอดเวลา ลองสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าตลอดเวลา ให้กำลังใจแก่ผู้อื่นบนโซเชียลมีเดีย แจ้งข่าวสารพร้อมแหล่งข้อมูลและลองใช้วิดีโอเพื่อเสนอการนัดหมายหรือให้คำปรึกษาตัวต่อตัว เสนอคำแนะนำที่จะทำให้ด้วยตนเองทางออนไลน์ คุณจะต้องการการติดต่อกับเพื่อนๆ ของคุณ เจ้าของธุรกิจรายอื่น หรือชุมชน Marketplace ต่างๆ เช่น จุฬามาร์เก็ตเพลส เพื่อแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์ต่างๆ พร้อมทั้งคำแนะนำมากมากผ่านออนไลน์ รวมถึงการเข้าร่วมการสนทนาและทำงานกับธุรกิจอุตสาหกรรมอื่นๆด้วยเช่นกัน ที่มา : https://www.mindbodyonline.com/education/blog/10-tips-salons-spas-and-wellness-businesses-about-covid-19