เริ่มนับถอยหลัง windows 10 ถึงเวลาอัปเกรดพีซีเพื่อรองรับระบบปฏิบัติการ Windows 11 Windows 10 ได้ให้บริการเราเป็นอย่างดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ต้องมีการปรับปรุงพัฒนาเป็นเวอร์ชั่นใหม่ โดยในปีหน้า (2025) Microsoft วางแผนที่จะยุติการซัพพอร์ต Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ซึ่งจะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยอีกต่อไป ไม่มีแพตช์และไม่ซัพพอร์ตอีกต่อไป ถึงเวลาอัปเกรดเป็น Windows 11 แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ทางธุรกิจที่มีระบบมากมายที่ต้องตรวจสอบและอัปเกรด การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อให้ได้รับฟีเจอร์ใหม่เท่านั้น แต่ยังเพื่อให้แน่ใจว่าพีซีของคุณปลอดภัย รวดเร็ว และสามารถรองรับซอฟแวร์ใหม่ได้อีกด้วย เหตุใดจึงต้องอัปเกรดล่วงหน้า 1. ด้านความปลอดภัย เมื่อ Microsoft หยุดซัพพอร์ต Windows 10 คอมพิวเตอร์ของคุณจะเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ไม่มีการอัพเดทการซัพพอร์ต ไม่มีแพตช์ความปลอดภัยอีกต่อไป แฮกเกอร์และผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายจะใช้ประโยชน์จากช่องโหว่เหล่านี้ การอัปเกรดเป็น Windows 11 จะช่วยให้คุณได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยได้ดียิ่งขึ้น 2. ประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้น Windows 11 ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งควรจะอัพเกรดฮาร์ดแวร์ของคุณให้เหมาะสมเพื่อให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ไม่ว่าคุณจะใช้พีซีเพื่อทำงาน เล่นเกม หรือท่องเว็บทั่วไป จะมีความแตกต่างจนสังเกตได้ แอปพลิเคชันทำงานได้ดีขึ้น และเวลาในการบูตเครื่องก็เร็วขึ้นด้วย 3. คุณสมบัติที่ได้รับการปรับปรุง Windows 11 มีคุณสมบัติใหม่มากมาย เมนู Start และแถบ Taskbar ที่ออกแบบให้มีรูปลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัย เลเอาท์ Snap และกลุ่ม Snap ช่วยให้คุณจัดระเบียบพื้นที่ทำงานได้ดี แต่ละ User สามารถสร้างเดสก์ท็อป (Desktop) ที่แตกต่างกันได้ สเปคเครื่องคอมพิวเตอร์/ฮาร์ดแวร์ สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows 11 A compatible 64-bit processor with at least 1 GHz clock speed and 2 or more cores. 4 GB of RAM or more. 64 GB of storage or more. UEFI firmware with Secure Boot capability. TPM version 2.0. DirectX 12 compatible graphics with a WDDM 2.0 driver. โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ปัจจุบันบางเครื่องอาจไม่สามารถใช้งาน Windows 11 ได้ หรือใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพมากนัก สเปคเครื่องเหล่านี้ อาจจำเป็นต้องมีฮาร์ดแวร์ใหม่ คอมพิวเตอร์รุ่นเก่าหลายรุ่นที่ไม่ตรงตามสเปคดังกล่าวจึงควรจะอัปเกรดด้วย ข้อดีของการอัพเกรดคอมพิวเตอร์1. ปรับปรุงเครื่องให้ทันสมัย การอัปเกรดคอมพิวเตอร์เป็นการปรับปรุงเครื่องให้ทันสมัย พีซีรุ่นใหม่มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ที่ดีขึ้น อุปกรณ์แรม (Ram) สูงขึ้น และพื้นที่เก็บข้อมูลที่เร็วขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก 2. พีซีที่รองรับ AI พีซีที่รองรับ AI พร้อม Copilot จะมีคุณสมบัติขั้นสูงที่ขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยจะเรียนรู้พฤติกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพให้เหมาะสม ระบุสิ่งที่ต้องการได้ 3. ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน พีซีสมัยใหม่ประหยัดพลังงานมากขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดไฟฟ้า อีกทั้งฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ก็มักจะมีประสิทธิภาพมากกว่า มีอะไรใหม่ใน Windows 11 อินเทอร์เฟซ (Interface) รูปแบบหน้าตาโปรแกรมใหม่ มีการปรับปรุงพัฒนา Multitasking ติดตั้ง Microsoft Teams มาให้เลยในตัว การปรับปรุงเดสก์ท็อป (Virtual Desktops) ใหม่ การอัปเกรดช่วยลดความเสี่ยง เมื่อ Windows 10 ใกล้ถึงวันที่สิ้นสุดการซัพพอร์ต ความเสี่ยงต่อภัยคุกคามด้านความปลอดภัยก็จะเพิ่มมากขึ้น แฮกเกอร์จะเล็งเป้าหมายระบบที่ไม่ได้รับการซัพพอร์ต ฉะนั้นอย่าลืมอัปเดทโปรแกรมและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เพื่อความปลอดภัยของเราเอง หากมองหาซอฟท์แวร์ สามารถคลิกอ่านรายละเอียดและราคา Windows 11 ได้ที่เน็ตเวย์ เรายินดีให้บริการ Netway Communication ให้บริการด้าน Cloud, Hosting, VPS, Managed Server Services และ IT พื้นฐานสำหรับธุรกิจ เป็นตัวแทนแบรนด์ไอทีชั้นนำมากมาย Microsoft, Google, SSL ฯลฯ เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลคุณ 24 ชม. ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอทีได้ทันที ติดต่อ Netway Communication ได้ตลอด 24 ชม. ผ่านช่องทาง 📲 Tel: 02 055 1095 📧 Email: support@netway.co.th 👨💻 Web chat: [[URL]]/ 💙 Facebook: @netway.official https://www.facebook.com/netway.official 💚 Line ID: @netway https://bit.ly/line-netway อ้างอิง: thetechnologypress.com
Copilot บน OneDrive ค้นหา ช่วยสรุป ง่ายแค่คลิ้กเดียว! Copilot เป็นผลิตภัณฑ์จาก Microsoft 365 เป็นซอฟท์แวร์ที่ช่วยในการทำงานภายในแอป Word, Excel, PowerPoint, Outlook, Teams, OneDrive และอื่นๆ เช่นการค้นหา สรุป เรียบเรียงข้อมูลในเอกสารได้ง่ายขึ้นในที่นี้เรามาทำความรู้จักกับ Copilot on OneDrive กันบ้าง การใช้งาน Copilot บนโปรแกรม OneDrive เราสามารถพิมพ์เสิร์ชข้อมูลได้ทันที โดยไม่ต้องเปิดไฟล์ใดๆ รวมถึงเจ้า Copilot ยังช่วยสรุปคำตอบจากไฟล์ต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาไว้ทีเดียว! หากบริษัทคุณมีข้อมูลที่เยอะมาก และมีจัดเก็บแบบกระจาย หลายทีม หลาย Project ใช้เวลาค้นหาข้อมูลเพื่อเขียนสรุปก็หลายชั่วโมง การใช้งาน Copilot จะทำให้งานของคุณง่ายกว่า เร็วกว่า และสบายกว่า ด้วย Microsoft Copilot for Microsoft 365 หากการค้นหาไฟล์ และสรุปผล เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ต้องเปิดหลายไฟล์ ดูหลายชีท Copilot จะช่วยให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้น โดยหากคุณตั้งคำถาม หรือเสิร์ชข้อมูลใดๆบน OneDrive หรือสั่งให้ Copilot ช่วยสรุปโปรเจค สรุปการประชุม Copilot จะเข้าไปขุดคุ้ยไฟล์ที่อยู่ในแต่ละ Folder ทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไฟล์ DOC, DOCX, FLUID, LOOP, PPT, PPTX, XLSX, PDF, ODT, ODP, RTF, ASPX, RTF, TXT, HTM,หรือ HTML ก็ตาม ตัว Copilot ก็จะเข้าไปอ่านข้อมูลต่างๆและช่วยคุณสรุปออกมาเป็นเนื้อหาที่เข้าใจง่าย เพียงแค่คลิ้กเดียว! ถาม-ตอบ เกี่ยวกับ Copilot ใน OneDrive Q: ขณะนี้ Copilot ใน OneDrive พร้อมใช้งานที่ใด A: ขณะนี้ Copilot ใน OneDrive พร้อมใช้งานบนเว็บ OneDrive สําหรับผู้ใช้เชิงพาณิชย์เท่านั้น Q: Copilot ใน OneDrive จะพร้อมใช้งานเมื่อใด A: Copilot ใน OneDrive กําลังทยอยเปิดตัวอยู่ในขณะนี้ และอาจยังไม่พร้อมให้ใช้งานโดยสมบูรณ์สําหรับผู้ใช้หรือองค์กรทั้งหมด Q: เปิดใช้งาน Copilot ใน OneDrive ได้อย่างไร A: Copilot ใน OneDrive รวมชุดมาเป็นส่วนหนึ่งของ Microsoft Copilot ในแพลตฟอร์ม Microsoft 365 และเปิดใช้งานสําหรับผู้ใช้ที่มีสิทธิ์การใช้งานเสมอ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปิดใช้งาน Copilot ในองค์กรของคุณ คลิก เปิดใช้งานผู้ใช้สำหรับ Microsoft Copilot สำหรับ Microsoft 365 Q: ปิดใช้งาน Copilot ใน OneDrive สําหรับองค์กรได้อย่างไร A: Copilot ใน OneDrive สามารถปิดใช้งานได้โดยผู้ดูแลระบบของคุณ (หรือผู้ดูแลระบบในองค์กร) โดยการยกเลิกการเลือก Microsoft Copilot ใน SharePoint จากส่วนการจัดการ Microsoft 365 Q: สามารถควบคุมสิ่งที่ Copilot มีสิทธิ์เข้าถึงภายใน OneDrive ของฉันได้หรือไม่ A: Copilot ใช้ไฟล์ของคุณและเป็นไฟล์ที่คุณมีสิทธิ์ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาเชิงลึกแก่คุณ สามารถเปิดใช้งาน Copilot ได้เฉพาะบนไฟล์ที่คุณเลือกใน OneDrive เท่านั้น Q: ไฟล์ใดที่ Copilot สามารถเข้าถึงได้ A: Copilot สามารถเข้าถึงได้เฉพาะไฟล์ที่คุณมีสิทธิ์เท่านั้น ซึ่งรวมถึงไฟล์ใน OneDrive ของคุณและไฟล์ในองค์กรที่แชร์ให้กับคุณ ซึ่งการใช้ Copilot ส่วนใหญ่จะทำงานได้ดีกับเอกสารที่ประกอบด้วยข้อความ Q: ไฟล์ใดที่ Copilot ไม่สามารถเข้าถึงได้ A: Copilot ยังไม่ซัพพอร์ตประเภท รูปภาพ วิดีโอ และไฟล์ลักษณะนี้ประเภทอื่นๆ Q: Copilot สนับสนุนไฟล์ประเภทใดบ้าง A: - ไฟล์เอกสาร Office: DOC, DOCX, PPT, PPTX, XLSX - ไฟล์รูปแบบใหม่ของ Microsoft 365: FLUID, LOOP - ไฟล์รูปแบบสากล: PDF, TXT, RTF - ไฟล์เว็บ: ASPX, HTM, HTML - ไฟล์รูปแบบ OpenDocument: ODT, ODP Q: ข้อจํากัดของ Copilot ใน OneDrive คืออะไรบ้าง A: 1. ปัจจุบัน การดําเนินการหลายไฟล์ เช่น การสรุป การเปรียบเทียบ การถามตอบ ถูกจํากัดไว้ที่ 5 ไฟล์ 2. Copilot ใน OneDrive สนับสนุนไฟล์ข้อความ เอกสาร, งานนําเสนอ, สเปรดชีต, PDFส่วนไฟล์ยังไม่สนับสนุน เช่น - รูปภาพ - การบันทึกการประชุมและวิดีโออื่นๆ - สมุดบันทึก OneNote3. การถามตอบของโฟลเดอร์ยังไม่ได้รับการสนับสนุน 4. จํากัดเฉพาะไฟล์ที่มีขนาดต่ำกว่า 150 MB เท่านั้น** ทั้งนี้ทาง Microsoft กำลังดำเนินการพัฒนา และจะมีการสนับสนุนเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ หากสนใจ Microsoft Copilot for Microsoft 365 หรือมีข้อสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อฝ่ายขายได้ทันทีได้ที่ 📲 Tel: 02 055 1095 📧 Email: support@netway.co.th 👨💻 Web chat: [[URL]]/ 💙 Facebook: @netway.official https://www.facebook.com/netway.official 💚 Line ID: @netway https://bit.ly/line-netway อ้างอิง: Microsoft
เน็ตเวย์ คอมมูนิเคชั่น ชูสถานะคู่ค้าระดับแพลตตินั่ม ประจำปี 2024 English ภาษาไทย Bangkok, THAILAND – August, 2024 - Netway Communication Co., Ltd., Thailand's No. 1 SSL and leading cloud service provider was awarded for the outstanding sales achievements to earn a Platinum Partner status from DigiCert Inc, the world's leading provider of TLS/SSL, IoT and PKI solutions that ensure authentication, encryption and integrity for Web sites, enterprise digital applications and the Internet of things (IoT). Upon this occasion, it is honored for Netway Communication to express great appreciation and thankfulness for the continued support and partnership over years. The Company values the strong relationship with DigiCert® and being recognized for great commitment to Thai and international clients and is an industry leader. As a Platinum member in the DigiCert Certified Partner Program, Netway Communication receives the best-of-breed service and support for our website security business. With the Platinum level status, several resources are exclusively dedicated from Certificate Authority toward all customers worldwide. The status also marks the appreciation and dedication of our partnership with DigiCert Inc. having been made so far. As a Platinum Partner, some of the benefits that Netway Communication is eligible for and can help support more with the customers include, but not limited to, the followings: Dedicated Sales Engineer (SE) from DigiCert Inc. Joint market and business planning across the region(s). Dedicated technical support team available 24x7, directly from DigiCert Inc. Dedicated authentication support from DigiCert Inc. Technical training for our presales team. Priority authentication support including weekend on-call support for emergencies. There are many benefits for vendors that incorporate DigiCert's certificates, from encrypting sensitive data for PCI compliance to building credibility with their users that their site is authentic and not a fake one set up by cybercriminals. HTTPs are a must-have in today's digital economy, and DigiCert's automated solutions make TLS easy to deploy and manage, with the backing of the world's most trusted certificate solutions provider. Beyond TLS, DigiCert offers a wide variety of the industry's best solutions for securing IoT devices, as well as enterprise applications, users, and devices. For more SSL information, please contact support@netway.co.th (24X7, English and Thai). For Press, please contact Nareerat Chansirikiat, Chief Customer Officer, nareerat.c@netway.co.th About DigiCert DigiCert is the world's leading provider of scalable TLS/SSL, IoT, and PKI solutions for identity and encryption. The most innovative companies, including 89% of the Fortune 500 and 97 of the 100 top global banks, choose DigiCert for its expertise in identity and encryption for web servers and Internet of Things devices. DigiCert supports TLS and other digital certificates for PKI deployments at any scale through its certificate lifecycle management solution, CertCentral®. The company is recognized for its enterprise-grade certificate management platform, fast and knowledgeable customer support, and market-leading security solutions. About Netway Communication Netway Communication is Thailand's leading Cloud Managed Service provider, offering a wide range of cloud services: domain, hosting, email platforms, cloud server, managed server services, SSL, etc. The Company partners with top IT brands in offering world-class services to customers in Thailand and overseas. The company is recognized for its customer-centric commitment, knowledgeable customer support, and market-leading cloud services. บริษัท เน็ตเวย์ คอมมูนิเคชั่น จำกัดไม่หยุดรุกเดินหน้าให้บริการ ใบรับรองความปลอดภัยอีเล็กทรอนิกส์ (SSL Certificate) และบริการด้านความปลอดภัยสำหรับเว็บไซต์มาตรฐานสากล เพื่อความปลอดภัยและน่าเชื่อถือให้องค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก เป็นผลให้ดิจิเซอร์ (DigiCert Inc.) เล็งเห็นความสำคัญ และมอบใบประกาศ DigiCert Platinum Partner ประจำปี 2024 ส่งผลดีต่อลูกค้าของเน็ตเวย์ คอมมูนิเคชั่น ที่จะได้รับบริการระดับโลก ผ่านเจ้าหน้าที่คนไทย ตลอด 24 ชม กรุงเทพมหานคร, สิงหาคม พ.ศ. 2567 — บริษัท เน็ตเวย์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ผู้ให้บริการ SSL อันดับหนึ่ง และผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำของไทยได้รับความไว้วางใจ และยกย่องจากดิจิเซอร์ (DigiCert Inc.) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Digital Trust, TLS/SSL, IoT และโซลูชั่น PKI ระดับสากล ว่าบริษัท เน็ตเวย์ คอมมูนิเคชั่น จำกัดได้แสดงผลงานยอดขายโดดเด่น และมีการบริการอันยอดเยี่ยมเป็นที่ประจักษ์ในประเทศไทยและในระดับสากล ในการนี้ ดิจิเซอร์ (DigiCert Inc.) จึงได้มอบรางวัล DigiCert Platinum Partner หรือ คู่ค้าระดับแพลตตินั่ม ประจำปี 2024 ให้แก่ บริษัท เน็ตเวย์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด เพื่อเป็นเครื่องหมายตอกย้ำความสำเร็จเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน ว่าได้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ รวมถึงการให้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ผ่านการจำหน่าย ติดตั้ง และให้คำแนะนำเกี่ยวกับใบรับรองความปลอดภัยอีเล็กทรอนิกส์ (SSL Certificate) แก่ลูกค้าทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคต่างๆ โดยรอบ ตลอดจนลูกค้าที่อยู่ภาคพื้นทวีปอื่นๆ เช่น อเมริกาและยุโรป เป็นต้น ในการนี้การที่ดิจิเซอร์ (DigiCert Inc.) ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำระดับโลก ในด้าน Digital Trust การเป็นผู้ให้บริการด้านการพิสูจน์ตัวตน การเข้ารหัส และตรวจสอบข้อมูลต่างๆ บนเว็บไซต์ และ Internet of things (IoT) ได้ยกย่อง บริษัท เน็ตเวย์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ให้เป็น DigiCert Platinum Partner หรือ คู่ค้าระดับแพลตตินั่ม เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน ได้แสดงถึงประโยชน์ที่บรรดาลูกค้าของบริษัทฯ ได้รับจาก DigiCert Inc. ในระดับ Top-Priority อันได้แก่ 1. ลูกค้าของบริษัท เน็ตเวย์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด สามารถรับคำปรึกษาจาก Sales Engineer (SE) เฉพาะด้านโดยตรงจาก DigiCert Inc. 2. DigiCert Inc. จัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและการวางแผนการสนับสนุนลูกค้าร่วมกันอย่างต่อเนื่อง 3. มีทีมสนับสนุนเฉพาะด้าน พร้อมให้บริการแบบ 24x7 โดย DigiCert Inc. สำหรับทุกกรณี 4. มีบริการ Authentication Support จำเพาะโดย DigiCert Inc. ที่ไม่ต้องรอเวลานาน 5. การสนับสนุนด้าน Authentication Support ข้างต้น ถือว่าอยู่ในระดับ Top-Priority ที่ DigiCert Inc. ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง 6. การสนับสนุนจาก DigiCert Inc. สามารถติดต่อได้แบบ 24x7 หรือตลอดเวลาไม่เว้นวันหยุดและพร้อมให้บริการทุกกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน ผ่านหลายหลายช่องทางทั้งโทรศัพท์ และอีเมล 7. DigiCert Inc. จัดอบรมถ่ายทอดความรู้ทางเทคนิคให้แก่ทีมบริการลูกค้าของบริษัท เน็ตเวย์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด โดยเฉพาะ นับเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสององค์กร อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับหน่วยงานในประเทศไทยและในระดับนานาชาติว่า บริษัท เน็ตเวย์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ตั้งใจและมุ่งมั่นในการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Digital Economy ซึ่งเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ และมีศักยภาพในอันที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยและของนานาชาติ ด้วยการให้บริการเทคโนโลยีความปลอดภัยของดิจิเซอร์ (DigiCert Inc.) ที่ทันสมัย และปลอดภัย ได้รับการยอมรับในระดับสากล ในการเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่ม ต่อยอดให้กับการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคการผลิต การขนส่ง การขาย และการบริการเกิดความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนต่อไป หากท่านสนใจบริการ SSL Certificate หรือผลิตภัณฑ์ด้าน Cybersecurity โดยบริษัท เน็ตเวย์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด สามารถติดต่อ support@netway.co.th ได้ตลอด 24 ชม. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด (ติดต่อได้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ) สำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่ออีเมล nareerat.c@netway.co.th (น.ส. นารีรัตน์ จันทร์ศิริเกียรติ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เน็ตเวย์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด) เกี่ยวกับ DigiCert® DigiCert® เป็นผู้ให้บริการชั้นนำระดับสากลในด้านโซลูชัน TLS / SSL, IoT และ PKI สำหรับการระบุตัวตนและการเข้ารหัส องค์กรที่มีนวัตกรรมมากที่สุดของโลก ไม่ว่าจะเป็น 89% ขององค์กรติดอันดับ Fortune 500 และ 97% ของ ธนาคารชั้นนำระดับโลกต่างเลือกใช้บริการ DigiCert® เนื่องจากเป็นแบรนด์มีความเชี่ยวชาญในการระบุตัวตนและการเข้ารหัสสำหรับเว็บเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์ Internet of Things ต่างๆ บริการต่างๆ ของ DigiCert® รองรับ TLS และใบรับรองดิจิทัลอื่น ๆ สำหรับการปรับใช้ PKI ในทุกระดับผ่านระบบ CertCentral® โดย DigiCert® ได้รับการยอมรับว่าเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถออกใบรับรองความปลอดภัยอีเล็กทรอนิกส์ที่ได้มาตรฐานระดับองค์กร มีทีมงานสนับสนุนลูกค้าที่รวดเร็ว พร้อมด้วยประสบการณ์ความรู้ และถือเป็นโซลูชันด้านความปลอดภัยชั้นนำในแวดวงบริการด้านความปลอดภัยอีกด้วย About Netway Communication บริษัท เน็ตเวย์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด คือผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำของไทย ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีในบริการคลาวด์ที่หลากหลายทั้ง Managed Cloud Server Services, โดเมน, โฮสติ้ง, อีเมลแพลตฟอร์ม, คลาวด์เซิร์ฟเวอร์, ฯลฯ องค์กรได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ไอทีชั้นนำมากมายให้เป็นคู่ค้า ทำหน้าที่ตัวแทนให้บริการลูกค้าทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ บริษัท เน็ตเวย์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด มีความมุ่งมั่นพัฒนางานบริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดที่จะพัฒนาระบบให้บริการ พร้อมส่งเสริมทีมงานในแง่ความรู้และมาตรฐานบริการ เพื่อลูกค้ามั่นใจว่าได้รับบริการที่รวดเร็ว การแก้ไขที่ตรงประเด็น และมั่นใจว่าเราคือผู้ให้บริการคลาวด์ที่พร้อมเคียงข้างการเติบโตทางธุรกิจของคุณตลอดไป
Netway Combo - August 2024 ห้ามพลาด การอัพเดตข่าวสารจาก RedHat และเทคนิคการใช้งานแอปและโปรแกรม Red Hat กับโซลูชันการโยกย้ายออกจาก CentOS Linux https://tinyurl.com/2bpc7hpb วิธีการลบผู้ใช้งาน Microsoft 365 (แบบไม่เก็บข้อมูล) https://tinyurl.com/yszn3sep วิธีการลบผู้ใช้งาน Microsoft 365 (สำรองข้อมูล) https://tinyurl.com/2p9nzadh เทคนิคการแยก คำนำหน้า ชื่อ นามสกุล ใน Excel ด้วยคีย์ลัด https://tinyurl.com/yacmkjjk เคล็ดลับการจัดระเบียบที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์เมื่อใช้ร่วมกัน https://tinyurl.com/33kkukzm Custom Backgrounds Gallery for Microsoft Teams https://tinyurl.com/4z8ejmdz สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือคำติชมใดๆ สามารถติดต่อ Netway Communication ได้ 24 ชม. Tel: 02 055 1095 Email: support@netway.co.th Web chat: [[URL]]/ Facebook Messenger: @netway.official หรือ https://www.facebook.com/netway.official Add Line ID: @netway, https://bit.ly/line-netway #Microsoft #MicrosoftTeams #SSL
CentOS Linux migration with Red Hat ครั้งก่อน cPanel แนะนำแนวทางการโยกย้ายระบบปฎิบัติการไปบ้างแล้วเกี่ยวกับ CentOS Linux 7 ที่สิ้นสุดอายุการใช้งาน (EOL เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2024 ) ครั้งนี้มาดูวิธีการของ RedHat กันบ้าง องค์กรที่ใช้ CentOS Linux จะต้องโยกย้ายไปยังระบบปฏิบัติการ (OS) ใหม่เพื่อรับการอัปเดตแพตช์ความปลอดภัยและคุณสมบัติใหม่ๆ ต่อไป หากยังใช้ CentOS Linux 7 อยู่ ระบบของคุณจะเพิ่มความเสี่ยงอย่างมาก Red Hat Enterprise Linux (RHEL) แนะนำโซลูชันตัวช่วยด้านความปลอดภัยเพื่อปกป้องระบบของคุณจากผู้โจมตีทางไซเบอร์ ซึ่ง RedHat สามารถช่วยคุณวางแผนเกี่ยวกับความปลอดภัยได้ด้วยการใช้เครื่องมือ Convert2RHEL นี้ Convert2RHEL คืออะไร? Convert2RHEL คือ Command line utility คำสั่งที่วิเคราะห์ความพร้อมของระบบและแปลงระบบปฏิบัติการ Linux (OS) ที่ใช้ RPM เป็น Red Hat Enterprise Linux ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานที่ทำได้โดยอัตโนมัติ แทนที่จะปรับใช้เวิร์กโหลดทั้งหมดด้วยตนเอง Convert2RHEL ช่วยลดความจำเป็นในการดำเนินงาน ที่อาจมีค่าใช้จ่ายสูง และลดภาระด้านการดูแลระบบด้วยการรักษา การปรับเปลี่ยนระบบปฏิบัติการตั้งค่าต่างๆ ที่มีอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงโยกย้าย นอกจากเป็นเครื่องมือ Convert ย้ายจาก CentOS Linux แล้ว เครื่องมือ Convert2RHEL ยังสามารถใช้กับ Linux distro อื่นๆ ได้ เช่น ย้ายจาก Oracle Linux, Alma Linux หรือ Rocky Linux ไปยัง Red Hat Enterprise Linux ได้ด้วย ทำไมจึงต้องใช้ Convert2RHEL No redeployment of the operating system or apps Configuration, preferences, and customizations are preserved Built-in-fail safe and disaster recovery Shorter maintenance window Supported by existing Red Hat Enterprise Linux subscription Upgrade path to get on the latest Red Hat Enterprise Linux เครื่องมือ Convert2RHEL (Use the Convert2RHEL tool) เป็นยูทิลิตี้บรรทัดคำสั่งที่แปลง ระบบปฏิบัติการ Linux ที่ใช้ RPM เช่น CentOS Linux 7 ไปเป็น ระบบปฏิบัติการ Red Hat Enterprise Linux ที่รองรับ (ในกรณีนี้คือ Red Hat Enterprise Linux 7) The do-it-yourself tool เป็นเครื่องมือที่ทำได้ด้วยตนเองโดยสามารถแปลงเป็น Red Hat Enterprise Linux ได้โดยอัตโนมัติแทนที่จะต้องปรับใช้เวิร์กโหลดใหม่ทั้งหมด เครื่องมือ Convert2RHEL ช่วยลดความจำเป็นในการปรับแก้ซ้ำๆ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูง และลดภาระงานด้านการดูแลระบบการตั้งค่า OS ที่มีอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงช่วงนี้ การแสดงขั้นตอนและทิศทางเกี่ยวกับการทำงานของ Convert2RHEL จากรูปจะเห็นว่า CentOS Linux 7 จะต้อง Migrate เปลี่ยนมาใช้ Red Hat Enterprise Linux 7 ก่อน และหลังจากที่ระบบได้ทำการโยกย้ายไปยัง Red Hat Enterprise Linux 7 แล้ว ผู้ใช้สามารถอัปเกรดเป็น Red Hat Enterprise Linux 8 ในขั้นถัดไปได้ หลังจากที่ระบบของคุณย้ายมาใช้ Red Hat Enterprise Linux 7 แล้ว จะมีแนวทางแยกเป็น 2 ทิศทาง อัปเกรดเป็น Red Hat Enterprise Linux 8 สามารถทำได้ทั้งแบบอัปเกรดมาจากเดิม (RHEL7) หรือติดตั้งใหม่ การอัปเกรดเป็น Red Hat Enterprise Linux เวอร์ชันล่าสุดช่วยให้ผู้ใช้ ได้รับการขยายระยะเวลาการสนับสนุนความเสถียรของระบบและใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติใหม่ล่าสุดได้ หากไม่พร้อมที่จะอัปเกรด ยังมี Extended Life Cycle Support (ELS) สำหรับ Red Hat Enterprise Linux 7 ที่ยังคงซัพพอร์ตการบำรุงรักษาเป็นระยะเวลาสูงสุด 4 ปี สำหรับการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยที่ส่งผลกระทบร้ายแรงบางประเด็น การแก้ไขจุดบกพร่องเร่งด่วนที่มีความสำคัญที่เลือกไว้ และการแก้ไขปัญหาสำหรับ Red Hat Enterprise Linux 7 (7.9) รุ่นรองสุดท้าย รองรับจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2028 **ทั้งนี้ อาจจะต้องศึกษาข้อมูล Features and benefits อย่างละเอียด เนื่องจากบางโซลูชันอาจมีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อีกทั้งเพื่อนำไปวิเคราะห์ว่าเหมาะสมกับการลงทุนหรือไม่ ถาม-ตอบ จาก RedHat Q: มีอะไรมาแทนที่ CentOS Linux 7? A: CentOS Linux 7 จะไม่ถูกแทนที่ การอัปเดตและการเผยแพร่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน 2024 Q: EOL ของ CentOS Linux 8 คืออะไร? A: การอัปเดต แพตช์ และฟีเจอร์ใหม่สำหรับ CentOS Linux 8 สิ้นสุดไปแล้วในวันที่ 31 ธันวาคม 2021 Q: CentOS จะหายไปใช่ไหม? A: การอัปเดตสำหรับ CentOS Linux 7 สิ้นสุดลงในวันที่ 30 มิถุนายน 2024 อย่างไรก็ตาม CentOS Project และ Contributors จะไม่หายไป ผู้สนับสนุนต่างสามารถร่วมมือกันพัฒนา Red Hat Enterprise Linux เวอร์ชันในอนาคตได้ผ่าน CentOS Stream ซึ่งจะยังคงเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการพัฒนา Red Hat Enterprise Linux นั่นเอง Q: มี CentOS Linux 9 หรือไม่? A: จะไม่มี CentOS Linux 9 Netway Communication ให้บริการด้าน Cloud, Hosting, VPS, Managed Server Services และ IT พื้นฐานสำหรับธุรกิจ เป็นตัวแทนแบรนด์ไอทีชั้นนำมากมาย Microsoft, Google ฯลฯ เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลคุณ 24 ชม. ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ ติดต่อ Netway Communication ได้ตลอด 24 ชม. ผ่านช่องทาง Email: support@netway.co.th Tel: 02 055 1095 Line ID: @netway อ้างอิง : redhat.com